“ให้ความรักของพระเจ้าเป็นพลัง”

ค่านิยมแห่งแผ่นดินของพระเจ้านั้นถือว่าความรักใหญ่ที่สุด (1คร.13:13) แต่ค่านิยมของโลกนี้ถือว่าผลงานใหญ่ที่สุด เป็นตัวตัดสินคุณค่าของแต่ละบุคคล การเน้นเรื่องผลงานที่ปรากฏได้เกิดขึ้นในคริสตจักรโครินธ์ ทำให้อ.เปาโลได้เขียนจดหมายไปเตือนสติว่าเมื่อใดที่ละเลยเรื่องของความรัก

“รักทุกคนด้วยความรักของพระคริสต์”

ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นผลที่พระเยซูคริสต์ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเห็นในชุมชนแห่งความเชื่อที่เรียกว่าคริสตจักร เป็นเอกลักษณ์ของคริสตจักรที่แตกต่างจากชุมชนอื่นๆ มันเป็นสิ่งสำคัญจนพระเยซูได้สั่งเป็นบัญญัติใหม่เพียงข้อเดียวเท่านั้น “เราให้บัญญัติใหม่ไว้กับพวกท่าน คือให้รักซึ่งกันและกัน เรารักพวกท่านมาแล้วอย่างไร ท่านก็จงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น” (ยน.13:34)

“วันแห่งความรัก”

เมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมาเป็นวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก จากประวัติความเป็นมาของวันดังกล่าวทำให้รู้ว่าความรักที่กล่าวถึงคือความรักของพระเจ้า แต่ปัจจุบันนี้มีการฉลองวันแห่งความรักในประเทศไทยโดยหนุ่มสาวจำนวนมาก เพราะนิยมชมชอบและสนใจในเรื่องความรักของหนุ่มสาว แต่พวกเขาไม่รู้ว่าความรักของพระเจ้าเป็นอย่างไรเพราะไม่เคยมีประสบการณ์กับความรักของพระเจ้า

“จงลงทุนใช้เวลา”

ขอหนุนใจพี่น้องทุกคนให้ตั้งเป้าหมายในปีนี้ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้าให้เป็นหนึ่งกับพระองค์มากขึ้น ทุกคนสามารถทำได้โดยจัดเวลาที่จะอธิษฐานและอ่านพระวจนะของพระเจ้าในแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ อ่านแบบใคร่ครวญเพื่อให้ความจริงจากพระคำเข้าไปในจิตใจ อ่านด้วยใจอธิษฐานเพื่อให้พระวิญญาณสำแดงความจริงและประทานความเข้าใจให้ การใช้เวลาส่วนตัวกับพระเจ้าโดยการทำกิจกรรมดังกล่าวเรียกว่า”การเฝ้าเดี่ยว”

“การพัฒนาความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกับพระเจ้า”

การพัฒนาความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกับพระเจ้าพระบิดาสามารถทำได้โดยผ่านทางการนมัสการพระเจ้าอย่างถูกต้อง พระเยซูได้เปิดเผยให้รู้ว่าการนมัสการที่ถูกต้องนั้นคือการนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและด้วยความจริง

“ความเป็นหนึ่งในพระกายของพระคริสต์”

ความเป็นหนึ่งในพระกายของพระคริสต์มีอยู่แล้วในธรรมชาติใหม่เมื่อเราบังเกิดใหม่ในพระคริสต์ มันถูกใส่ไว้ในโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังนั้นอ.เปาโลจึงกล่าวใน อฟ.4:3″จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันซึ่งพระวิญญาณนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ”

“พลังของคริสตจักรที่แท้จริง”

พลังของคริสตจักรซึ่งเป็นชุมชนของพระคริสต์ไม่ได้อยู่ที่กำลังของถวายทรัพย์หรืออยู่ที่กำลังความรู้ความสามารถของมวลสมาชิกในคริสตจักร แต่พลังที่แท้จริงอยู่ที่ความรักความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของสมาชิก

“ช่องทางที่ทำให้ใกล้ชิดพระเจ้า”

การนมัสการพระเจ้าอย่างถูกต้องด้วยจิตวิญญาณและความจริงเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้นมัสการได้เข้าใกล้ชิดพระเจ้า ได้รับการเยี่ยมเยียนจากพระองค์ เพราะพระเยซูตรัสว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้น (ยน.4:23)

“ปีแห่งความเป็นหนึ่ง”

ปีนี้คริสตจักรได้กำหนดให้เป็นปีแห่งความเป็นหนึ่ง ซึ่งจะเน้นให้สมาชิกทุกคนได้พัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้า ให้เกิดควkมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนดังคำอธิษฐานของพระเยซูคริสต์ “เพื่อพวกเขาจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังเช่นพระองค์ผู้เป็นพระบิดาสถิตในข้าพระองค์และข้าพระองค์ในพระองค์ เพื่อพวกเขาจะได้อยู่ในพระองค์และข้าพระองค์ด้วย เพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา”(ยน.17:21)

“จงนิ่งเสีย และรู้เถอะว่า เราคือพระเจ้า”

ในที่สุดวันสุดท้ายของปี 2017 ก็มาถึง ปีนี้พิเศษเพราะตรงกับวันอาทิตย์ ในช่วงวันหยุดยาวถึง 4 วันผมอยากแนะนำให้ทุกคนได้จัดเวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในสี่วันนี้แยกตัวอยู่ตามลำพัง ปิดมือถือและการติดต่อสื่อสารทั้งหมดกับโลกภายนอก ใช้เวลาเงียบๆอยู่กับการอธิษฐานต่อพระเจ้าและทบทวนชีวิตของตนเองตลอดปี 2017 แล้วจดบันทึกสิ่งเหล่านี้ลงไปในสมุดไดอารี่

“ข่าวดีแห่งวันคริสตมาส”

คริสตมาสปีนี้เน้นเรื่องข่าวดีที่ต้องประกาศให้คนทั่วไปได้รับรู้ เพราะยังมีคนอีกมากไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของคริสตมาส บางคนรู้ว่าเป็นวันเกิดของพระเยซูคริสต์ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์เกิดมาเพื่อช่วยมนุษย์ให้พ้นจากการเป็นทาสของความบาป พ้นจากอำนาจผูกมัดของวิญญาณแห่งความมืด พระองค์มาเป็นความสว่างแห่งชีวิตแก่คนที่อยู่ในความมืดมิดของปัญหาชีวิต ไม่มีคำตอบ ไม่มีทางออก “โดยพระทัยเมตตากรุณาแห่งพระเจ้าของเรา แสงอรุณจากเบื้องสูงจึงมาเยี่ยมเยียนเรา ส่องสว่างแก่คนทั้งหลายผู้อยู่ในที่มืด และในเงาแห่งความมรณา เพื่อจะนำเท้าของเราไปในทางสันติสุข”(ลก.1:78-79)

“ถูกเตรียมไว้เพื่อทำพระราชกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

เรื่องราวคริสตมาสที่บันทึกในพระคริสตธรรมคัมภีร์มีการอัศจรรย์ที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นหลายเรื่องด้วยกัน เพราะมีการปรากฏตัวของทูตสวรรค์หลายตอนด้วยกัน แต่เรื่องที่คนมากมายไม่เชื่อคือเรื่องที่นางมารีย์ตั้งครรภ์โดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แม้แต่นางมารีย์ยังแปลกใจเมื่อทูตสวรรค์แจ้งเรื่องการตั้งครรภ์ให้นางทราบ “พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จลงมาบนเธอ และฤทธิ์เดชของผู้สูงสุดจะปกเธอ เหตุฉะนั้นบุตรจะเกิดมานั้นจะได้เรียกว่าวิสุทธิ์ และเรียกว่าพระบุตรของพระเจ้า”(ลก.1:35)