“มองโลกในแง่บวก”

คนที่มองโลกในแง่ลบจะเห็นว่าทุกทางออกมีปัญหา ส่วนคนที่มองโลกในแง่บวกจะเห็นว่าทุกปัญหามีทางออก เมื่อเป็นเช่นนั้นคนที่มองโลกในแง่ลบก็จะจมอยู่กับปัญหา ชีวิตจะไม่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างที่ควรเพราะจดจ่อกับปัญหา ส่วนคนที่มองโลกในแง่บวกก็จะขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้า

“แม่..ผู้ปลูกฝังความเชื่อ”

คริสตจักรได้จัดให้วันนี้เป็นวันแม่เพื่อระลึกถึงบทบาทและความสำคัญของคุณแม่ ชีวิตของทารกเริ่มก่อตัวขึ้นในครรภ์ของแม่ อารมณ์ต่างๆของแม่ขณะตั้งครรภ์และอาหารที่แม่รับประทานจะส่งผลต่อลูกในครรภ์ เพราะชีวิตของลูกผูกติดอยู่กับแม่

“ช่วยจิตวิญญาณให้รอด ช่วยสังคมให้ดีขึ้น”

การกระทำที่ได้รับคำชมเชยในพระคัมภีร์คือการช่วยคนที่หลงผิดให้กลับใจใหม่ “พี่น้องของข้าพเจ้า ถ้าคนใดในพวกท่านหลงผิดไปจากความจริง และผู้ใดชักจูงเขาให้เขากลับใจเสียใหม่ จงให้ผู้นั้นรู้เถิดว่า ผู้ที่ช่วยคนบาปคนหนึ่งให้พ้นจากทางผิดของเขานั้น ก็ได้ช่วยจิตวิญญาณของเขาให้รอดพ้นจากความตาย และได้กำจัดบาปเสียมากมาย”(ยก.5:19-20)

“การเดินทางบนโลกนี้”

ชีวิตมนุษย์บนโลกนี้เหมือนการเดินทาง การเกิดมาลืมตาดูโลกคือจุดเริ่มต้นของการเดินทาง บางคนได้เดินในเส้นทางที่สุขสบายและปลอดภัยเพราะเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยและอบอุ่นมีความรักความปรองดอง แต่บางคน

“อย่าลืมพระคุณพระเจ้า”

สาเหตุที่พระเจ้าทรงสั่งให้ชนชาติอิสราเอลถือรักษาเทศกาลปัสกาตลอดทุกชั่วอายุคน(อพย.12)และเทศกาลอื่นๆอีกหลายเทศกาล ซึ่งจะต้องจัดทุกปี ก็เพื่ออิสราเอลจะไม่ลืมพระราชกิจของพระเจ้าที่ทรงปลดปล่อยพวกเขาจากการเป็นทาสในอียิปต์ และนำพวกเขาเดินทางในถิ่นทุรกันดาร 40 ปี จนในที่สุดสามารถยึดครองแผ่นดินคะนาอันได้

“การถวายเพื่อพระราชกิจของพระเจ้าเป็นช่องทางแห่งพระพร”

นี่เป็นคำอธิษฐานของกษัตริย์ดาวิดเกี่ยวกับการเตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อการสร้างพระวิหารของพระเจ้า “–ของมากมายเหล่านี้ทั้งสิ้นซึ่งข้าพระองค์จัดหาเพื่อพระนิเวศถวายแด่พระองค์เพื่อพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ มาจากพระหัตถ์ของพระองค์และเป็นของพระองค์ทั้งสิ้น—-ข้าพระองค์ได้ถวายทุกสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น ด้วยความเต็มใจในความเที่ยงธรรมแห่งจิตใจของข้าพระองค์ และบัดนี้ข้าพระองค์ชื่นใจที่ได้เห็นประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งอยู่ ณ ที่นี้ได้เต็มใจถวายด้วยความชื่นบานต่อพระองค์”(1พศด.29:16-17)

“‘งานของพระวิญญาณในการเป็นพยานเพื่อพระคริสต์”

“เมื่อพระองค์นั้นเสด็จมาแล้ว พระองค์จะทรงกระทำให้โลกรู้แจ้งในเรื่องความผิด ความชอบธรรม และการพิพากษา”(ยน.16:8) พระเยซูตรัสถึงงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงกระทำในใจของมนุษย์ ซึ่งจะชักนำให้มนุษย์มาสู่การสารภาพบาปและกลับใจใหม่ เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ แต่เรื่องนี้จะเกิดควบคู่กับการประกาศข่าวประเสริฐ คือผู้เชื่อต้องร่วมมือกันในการเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์เพื่อบอกความจริงถึงการทนทุกข์ การสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์

“กลุ่มพัฒนาชีวิต(กพช.)”

คริสตจักรใจสมานกำหนดให้ทุกอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมิถุนายนเป็นวันกลุ่มพัฒนาชีวิต(กพช.)เพื่อรณรงค์ให้สมาชิกทุกคนเห็นความสำคัญของการเข้าร่วมกพช. เพราะคริสตจักรตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาชีวิตของสมาชิก

“ความร้อนรนฝ่ายวิญญาณ”

ทำอย่างไรคริสเตียนจึงจะมีใจกระตือรือร้นในการติดตามพระคริสต์อย่างต่อเนื่องยาวนาน? ที่ถามเช่นนี้เพราะมีคริสเตียนไม่น้อยที่สูญเสียความร้อนรนฝ่ายวิญญาณเมื่อเป็นคริสเตียนไประยะหนึ่งแล้ว สภาพเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับคริสเตียนในยุคนี้เท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับคริสเตียนในสมัยพระคัมภีร์ใหม่ด้วย

“ถวายตัวกับพระองค์”

“จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อมและจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา”(มธ.11:29-30) พระเยซูได้เชิญชวนให้ทุกคนที่มาหาพระองค์และได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์ ให้รับเอา..

“รับมอบฉันทะในการทำหน้าที่ประกาศข่าวประเสริฐ”

“เพราะว่าข้าพเจ้าไม่มีความละอายในเรื่องข่าวประเสริฐ เพราะว่าข่าวประเสริฐนั้นเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับความรอด—“(รม.1:16)

“เปิดตาให้เห็นสิ่งมหัศจรรย์”

“ขอเบิกตาข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเห็นสิ่งมหัศจรรย์จากพระธรรมของพระองค์”(สดด.119:18) ทำไมจึงต้องอธิษฐานขอให้พระเจ้าเปิดตาให้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่อยู่ในพระวจนะของพระเจ้า ทั้งนี้เพราะ