“จงนิ่งเสีย และรู้เถอะว่า เราคือพระเจ้า”

ในที่สุดวันสุดท้ายของปี 2017 ก็มาถึง ปีนี้พิเศษเพราะตรงกับวันอาทิตย์ ในช่วงวันหยุดยาวถึง 4 วันผมอยากแนะนำให้ทุกคนได้จัดเวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในสี่วันนี้แยกตัวอยู่ตามลำพัง ปิดมือถือและการติดต่อสื่อสารทั้งหมดกับโลกภายนอก ใช้เวลาเงียบๆอยู่กับการอธิษฐานต่อพระเจ้าและทบทวนชีวิตของตนเองตลอดปี 2017 แล้วจดบันทึกสิ่งเหล่านี้ลงไปในสมุดไดอารี่

“ข่าวดีแห่งวันคริสตมาส”

คริสตมาสปีนี้เน้นเรื่องข่าวดีที่ต้องประกาศให้คนทั่วไปได้รับรู้ เพราะยังมีคนอีกมากไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของคริสตมาส บางคนรู้ว่าเป็นวันเกิดของพระเยซูคริสต์ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์เกิดมาเพื่อช่วยมนุษย์ให้พ้นจากการเป็นทาสของความบาป พ้นจากอำนาจผูกมัดของวิญญาณแห่งความมืด พระองค์มาเป็นความสว่างแห่งชีวิตแก่คนที่อยู่ในความมืดมิดของปัญหาชีวิต ไม่มีคำตอบ ไม่มีทางออก “โดยพระทัยเมตตากรุณาแห่งพระเจ้าของเรา แสงอรุณจากเบื้องสูงจึงมาเยี่ยมเยียนเรา ส่องสว่างแก่คนทั้งหลายผู้อยู่ในที่มืด และในเงาแห่งความมรณา เพื่อจะนำเท้าของเราไปในทางสันติสุข”(ลก.1:78-79)

“ถูกเตรียมไว้เพื่อทำพระราชกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

เรื่องราวคริสตมาสที่บันทึกในพระคริสตธรรมคัมภีร์มีการอัศจรรย์ที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นหลายเรื่องด้วยกัน เพราะมีการปรากฏตัวของทูตสวรรค์หลายตอนด้วยกัน แต่เรื่องที่คนมากมายไม่เชื่อคือเรื่องที่นางมารีย์ตั้งครรภ์โดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แม้แต่นางมารีย์ยังแปลกใจเมื่อทูตสวรรค์แจ้งเรื่องการตั้งครรภ์ให้นางทราบ “พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จลงมาบนเธอ และฤทธิ์เดชของผู้สูงสุดจะปกเธอ เหตุฉะนั้นบุตรจะเกิดมานั้นจะได้เรียกว่าวิสุทธิ์ และเรียกว่าพระบุตรของพระเจ้า”(ลก.1:35)

“ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ มอบให้คนในสายสัมพันธ์”

“อันดรูว์จึงพาซีโมนไปเฝ้าพระเยซู พระเยซูทรงมอดพระเนตรเขาแล้วจึงตรัสว่า’ท่านคือซีโมนบุตรยอห์นซีนะ เขาจะเนียกท่านว่าเคฟาส'”(ยน.1:42) เมื่อแอนดรูว์ได้พบว่าพระเยซูคือพระเมสสิยาห์แล้ว เขาคิดถึงพี่ชายทันที เขาอยากจะนำพี่ชายให้มาหาพระเยซู นี่เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำคนในสายสัมพันธ์ให้มารู้จักพระเยซู

“พ่อที่ดี”

คริสตจักรได้กำหนดวันนี้เป็นวันพ่อเพื่อให้เกียรติและให้กำลังใจแก่พ่อทุกคนในการทำหน้าที่ที่สำคัญยิ่งสำหรับทุกคนในครอบครัว มีผู้เปรียบเทียบว่าครอบครัวก็เหมือนคนที่อยู่ในเรือลำเดียวกัน กัปตันเรือคือพ่อบ้าน ต้องทำหน้าที่ในการนำเรือฝ่าคลื่นลมไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย

“อย่าตกเป็นเหยื่อด้วยหลักปรัชญาและด้วยคำล่อลวง”

“จงระวังให้ดี อย่าให้ผู้ใดทำให้ท่านตกเป็นเหยื่อด้วยหลักปรัชญาและด้วยคำล่อลวงอันเหลวไหล ตามตำนานของมนุษย์ ตามภูตผีปีศาจของจักรวาล ไม่ใช่ตามพระคริสต์”(คส.2:8)

“เสริมสร้างลูกหลานของเราให้ดำรงอยู่ในความเชื่อ”

การส่งต่อความเชื่อจากคนรุ่นหนึ่งสู่คนรุ่นถัดไปเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถและความทุ่มเทของรุ่นที่เป็นพ่อแม่อย่างยิ่ง เมื่อคนอิสราเอลรุ่นที่อยู่ภายใต้การนำของโยชูวาเข้ายึดครองแผ่นดินคะนาอันได้ตายจากไป รุ่นลูกถัดมาได้ละเลยในการเชื่อฟังพระเจ้า พวกเขาล้มเหลวในการติดตามพระเจ้าด้วยใจเชื่อฟังเหมือนรุ่นพ่อแม่ของเขา (วนฉ.2:7-11)

“นมัสการพระเจ้าอย่างถูกต้องแท้จริง”

ในฐานะที่ผู้เชื่อทุกคนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นปุโรหิตของพระเจ้า “และทรงตั้งเราไว้ให้เป็นอาณาจักรและเป็นปุโรหิตของพระเจ้าพระบิดาของพระองค์”(วว.1:6) หน้าที่สำคัญประการหนึ่งของปุโรหิตในการปรนนิบัติพระเจ้าคือการนมัสการพระเจ้า ถวายเครื่องสักการะะบูชาฝ่ายวิญญาณแด่พระเจ้า(1ปต.2:5) ซึ่งก็คือคำสรรเสริญยกย่องพระเจ้า(ฮบ.13:15) พระเยซูคริสต์ได้ตรัสว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนที่จะนมัสการพระองค์อย่างถูกต้องหรืออย่างแท้จริงคือนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง (ยน.4:23-24)

“ใช้ชีวิตเพื่อทำความดี”

ขณะนี้จิตใจของคนไทยส่วนใหญ่ยังคงมีความอาลัยต่อจากไปของในหลวงรัชกาลที่9 ถึงแม้ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านพันไปแล้ว1ปี แต่ความรู้สึกถึงการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ยังคงอยู่ในใจของคนไทย ชีวิตคนเราในโลกนี้ต้องพบเหตุการณ์ทั้งที่ดีและไม่ดีคละเคล้ากันไป จำเป็นที่แต่ละคนต้องตั้งสติให้ดีเพื่อมุ่งเดินหน้าต่อไป ใช้ชีวิตเพื่อทำความดีและทำให้เป้าหมายของชีวิตสำเร็จ เนื่องจากชีวิตในโลกนี้มีเวลาที่จำกัด

“น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ”

ผ่านไปหนึ่งปีแล้วที่ประเทศไทยพบกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นั่นคือการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2016 ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้หลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่นี้ มีการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านอย่างกว้างขวางในหลายสาขาวิชาการ การแก้ปัญหาต่างๆเพื่อช่วยประชาชนให้หลุดพ้นจากปัญหาและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น