“วันแห่งฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์”

สุดสัปดาห์นี้มีวันสำคัญของคริสเตียนอยู่สองวัน วันแรกคือวันศุกร์ประเสริฐ 30 มีนาคมเป็นวันระลึกถึงการทนทุกข์และสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์บนกางเขนเพื่อรับแบกบาปและรับการพิพากษาแทนมนุษย์ทุกคน ผลดีที่เกิดขึ้นคือทุกคนที่เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์จะได้รับการยกโทษบาป ไม่ต้องเข้าสู่การพิพากษาและการถูกทิ้งในบึงไฟนรก แต่ได้รับความรอดและรับชีวิตนิรันดร์ ขอบคุณพระเยซูคริสต์ที่ทรงยอมตายเพื่อพวกเราทุกคน

“สร้างสาวกผู้สานต่อพระราชกิจของพระเยซู”

คำสั่งของพระเยซูคริสต์ที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากต่อการขยายแผ่นดินของพระเจ้าในโลกนี้ เป็นคำสั่งสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์”เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติให่เป็นสาวกของเรา—“(มธ.28:19) การสร้างสาวกจึงเป็นงานรับใช้ที่สำคัญเป็นหลักใหญ่ของคริสตจักรใจสมาน เพราะเราเชื่อว่านี่คือพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์ผู้เป็นประมุขของคริสตจักร (อฟ.1:22)

“ให้ความรักของพระเจ้าเป็นพลัง”

ค่านิยมแห่งแผ่นดินของพระเจ้านั้นถือว่าความรักใหญ่ที่สุด (1คร.13:13) แต่ค่านิยมของโลกนี้ถือว่าผลงานใหญ่ที่สุด เป็นตัวตัดสินคุณค่าของแต่ละบุคคล การเน้นเรื่องผลงานที่ปรากฏได้เกิดขึ้นในคริสตจักรโครินธ์ ทำให้อ.เปาโลได้เขียนจดหมายไปเตือนสติว่าเมื่อใดที่ละเลยเรื่องของความรัก

“รักทุกคนด้วยความรักของพระคริสต์”

ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นผลที่พระเยซูคริสต์ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเห็นในชุมชนแห่งความเชื่อที่เรียกว่าคริสตจักร เป็นเอกลักษณ์ของคริสตจักรที่แตกต่างจากชุมชนอื่นๆ มันเป็นสิ่งสำคัญจนพระเยซูได้สั่งเป็นบัญญัติใหม่เพียงข้อเดียวเท่านั้น “เราให้บัญญัติใหม่ไว้กับพวกท่าน คือให้รักซึ่งกันและกัน เรารักพวกท่านมาแล้วอย่างไร ท่านก็จงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น” (ยน.13:34)

“วันแห่งความรัก”

เมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมาเป็นวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก จากประวัติความเป็นมาของวันดังกล่าวทำให้รู้ว่าความรักที่กล่าวถึงคือความรักของพระเจ้า แต่ปัจจุบันนี้มีการฉลองวันแห่งความรักในประเทศไทยโดยหนุ่มสาวจำนวนมาก เพราะนิยมชมชอบและสนใจในเรื่องความรักของหนุ่มสาว แต่พวกเขาไม่รู้ว่าความรักของพระเจ้าเป็นอย่างไรเพราะไม่เคยมีประสบการณ์กับความรักของพระเจ้า

“จงลงทุนใช้เวลา”

ขอหนุนใจพี่น้องทุกคนให้ตั้งเป้าหมายในปีนี้ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้าให้เป็นหนึ่งกับพระองค์มากขึ้น ทุกคนสามารถทำได้โดยจัดเวลาที่จะอธิษฐานและอ่านพระวจนะของพระเจ้าในแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ อ่านแบบใคร่ครวญเพื่อให้ความจริงจากพระคำเข้าไปในจิตใจ อ่านด้วยใจอธิษฐานเพื่อให้พระวิญญาณสำแดงความจริงและประทานความเข้าใจให้ การใช้เวลาส่วนตัวกับพระเจ้าโดยการทำกิจกรรมดังกล่าวเรียกว่า”การเฝ้าเดี่ยว”

“การพัฒนาความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกับพระเจ้า”

การพัฒนาความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกับพระเจ้าพระบิดาสามารถทำได้โดยผ่านทางการนมัสการพระเจ้าอย่างถูกต้อง พระเยซูได้เปิดเผยให้รู้ว่าการนมัสการที่ถูกต้องนั้นคือการนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและด้วยความจริง

“ความเป็นหนึ่งในพระกายของพระคริสต์”

ความเป็นหนึ่งในพระกายของพระคริสต์มีอยู่แล้วในธรรมชาติใหม่เมื่อเราบังเกิดใหม่ในพระคริสต์ มันถูกใส่ไว้ในโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังนั้นอ.เปาโลจึงกล่าวใน อฟ.4:3″จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันซึ่งพระวิญญาณนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ”

“พลังของคริสตจักรที่แท้จริง”

พลังของคริสตจักรซึ่งเป็นชุมชนของพระคริสต์ไม่ได้อยู่ที่กำลังของถวายทรัพย์หรืออยู่ที่กำลังความรู้ความสามารถของมวลสมาชิกในคริสตจักร แต่พลังที่แท้จริงอยู่ที่ความรักความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของสมาชิก

“ช่องทางที่ทำให้ใกล้ชิดพระเจ้า”

การนมัสการพระเจ้าอย่างถูกต้องด้วยจิตวิญญาณและความจริงเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้นมัสการได้เข้าใกล้ชิดพระเจ้า ได้รับการเยี่ยมเยียนจากพระองค์ เพราะพระเยซูตรัสว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้น (ยน.4:23)

“ปีแห่งความเป็นหนึ่ง”

ปีนี้คริสตจักรได้กำหนดให้เป็นปีแห่งความเป็นหนึ่ง ซึ่งจะเน้นให้สมาชิกทุกคนได้พัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้า ให้เกิดควkมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนดังคำอธิษฐานของพระเยซูคริสต์ “เพื่อพวกเขาจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังเช่นพระองค์ผู้เป็นพระบิดาสถิตในข้าพระองค์และข้าพระองค์ในพระองค์ เพื่อพวกเขาจะได้อยู่ในพระองค์และข้าพระองค์ด้วย เพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา”(ยน.17:21)