คนในสังคมทั่วๆ ไปจะมีปรัชญาการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ผู้ให้คำปรึกษาที่ดี ควรจะเรียนรู้แนวทางการดำเนินชีวิตของผู้รับคำปรึกษา เพื่อใช้เป็นสื่อในการทำความเข้าใจผู้รับคำปรึกษา ซึ่งจะนำไปสู่การให้คำปรึกษาที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

1. แนวปรัชญาตามธรรมชาตินิยม
ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญานี้ จะเน้นเรื่องพฤติกรรมที่เป็นไปตามธรรมชาติ เช่น

หลักการตามเหตุและผล (สมเหตุสมผลตามธรรมชาติทั่วๆไป)
หลักการตามข้อเท็จจริง
หลักการตามแนวตรรกวิทยา
หลักการที่สอดคล้องกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์และที่พิสูจน์ได้ตามวิธีทางวิทยาศาสตร์
ชีวิตที่ปกติสุข คือ ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ฝืนธรรมชาติ แล้วก็ให้เกิดความพึงพอใจแก่ตนเอง โดยยึดเอาผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นจริยธรรมสูงสุด (ทั้งด้านจิตใจ และด้านวัตถุ) แต่ต้องไม่ล่วงล้ำหรือเบียดเบียนสิทธิผลประโยชน์ของคนอื่น

2. แนวปรัชญาตามวัฒนธรรมนิยม
ปรัชญาการดำเนินชีวิตในแนวนี้ จะเน้นไปทางด้านที่เกี่ยวกับสังคม 2 ประการด้วยกัน คือ
ก. ความต้องการของสังคม
ข. การยอมรับของสังคม

ชีวิตที่ปกติสุข คือ การกระทำที่ไม่ขัดแย้งกับสังคมที่ตนอยู่
โดยมากแนวทางการให้คำปรึกษาจะคล้อยตามสังคมหรือเปลี่ยนสังคมใหม่ (ย้ายไปอยู่สังคมใหม่) เพื่อผู้รับคำปรึกษาจะสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่นั้นได้อย่างดีและสะดวก

3. แนวปรัชญาตามมนุษย์นิยม
มนุษย์เป็นศูนย์กลางของคุณค่าสูงสุด ไม่มีอะไรในโลกนี้จะมีค่ามากกว่ามนุษย์ โดยเน้นหนักไปในด้านจิตใจ ซึ่งมีแนวคิดหลักดังนี้
ก. แก่นแท้ของคนอยู่ที่จิต และอาการของจิตจะแสดงออกมาทางบุคคลิกภาพ
ข. พฤติกรรมการทำลายของมนุษย์เกิดมาจากความคับข้องใจ ดังนั้นหากต้องการการสร้างสรรค์ก็ต้องขจัดความคับข้องใจไปจาก จิตใจของมนุษย์ก่อน

ชิวิตที่ปกติสุข คือ มีจิตใจที่ปกติ ไม่ถูกกดดันจากปัญหาต่างๆ การเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมไม่ดีให้ดีขึ้นนั้น ต้องเริ่มต้นจากด้านใน (จิตใจ) ก่อน ถ้าสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใน จิตใจของคนๆ นั้นได้แล้ว พฤติกรรมต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไปด้วย

4. แนวปรัชญาตามเทวนิยม
คือแนวปรัชญาที่เน้นด้านพระเจ้า,สิ่งศักดิ์สิทธิ์,ศาสนาต่างๆ ปรัชญาการดำเนินชีวิตแนวนี้แบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 2 กลุ่มด้วยกันคือ
ก. กลุ่มที่เชื่อถือในพระเจ้าองค์เดียว (Monotheism)
ข. กลุ่มที่เชื่อถือในพระเจ้าหลายองค์ (Polytheism)

ชีวิตที่ปกติสุข คือ การดำเนินชีวิตที่ไม่ขัดแย้งกับข้อกำหนดต่างๆ ของแต่ละศาสนาหรือหลักข้อเชื่อในแต่ละกลุ่ม ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจาก การดำเนินชีวิตไม่ได้เป็นไปตามข้อกำหนดในคัมภีร์ (หลักคำสอน) ของแต่ละกลุ่ม ซึ่งทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย ในกรณีที่ปัญหาเกิดจากอีกฝ่ายหนึ่งที่มีการกระทำขัดแย้งกับคำสอนในคัมภีร์ ให้ฝ่ายที่มีชีวิตตามกฎเกณฑ์ในพระคัมภีร์นั้น อธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของตน และปฏิบัติตามคำสอน ที่เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวนี้ ซึ่งจะแตกต่างกัน ตามความเชื่อของแต่ละกลุ่ม

บทความโดย อ. ประยูร ลิมะหุตะเศรณี