1.เนื่องจากมนุษย์เป็นคนบาป และต้องอยู่รวมกันในโลกแห่งความบาป จึงทำให้มนุษย์ต้องประสบปัญหาในชีวิตตลอดไป
2. ปัญหาของแต่ละคน เรียกร้องการแก้ไขเป็นส่วนตัว
แต่ละบุคคลมีรายละเอียดของปัญหาที่แตกต่างกัน จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากที่จะแก้ปัญหาของแต่ละคน ขณะที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ไม่ว่าจะโดยการบรรยาย หรือการเทศน์ก็ตาม เพราะไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดที่เกี่ยวกับปัญหาของแต่ละบุคคล เช่น ปัญหาครอบครัว ซึ่งมีรายละเอียดที่แตกต่างกันของแต่ละคนก็คือเบื้องหลังชีวิตก่อนแต่งงานของแต่ละฝ่ายไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ฐานะ อุปนิสัย ฯลฯ เป็นต้น
3. ปัญหาบางอย่างต้องการ การระบาย
การให้คำปรึกษาเป็นการช่วยผู้ขอรับคำปรึกษาได้รับความรู้ ความเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของตน รวมทั้งเปิดโอกาสให้เขาระบายความอัดอั้นตันใจด้วยซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้รับคำปรึกษาได้รับการผ่อนคลายส่วนหนึ่งด้วย
4. เป็นโอกาสที่จะเข้าถึงแก่นแท้ของปัญหา
ปัญหาบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยในที่แจ้งได้ เช่น ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความผิดต่างๆ ในชีวิตส่วนตัว,ปมด้อย,ปัญหาที่ก่อให้เกิดความกลัวหรือความอับอายต่อบุคคลนั้นๆ เป็นต้น การให้คำปรึกษา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อผู้ที่มีปัญหาในลักษณะนี้ เพราะผู้รับคำปรึกษาจะให้ความไว้วางใจกับผู้ให้คำปรึกษาแก่เขา
5. เป็นโอกาสให้ผู้รับคำปรึกษา ได้ทำความเข้าใจกับปัญหาของตนเอง
เมื่อบุคคลประสบปัญหา เป็นธรรมชาติที่เขาจะพยายามช่วยตนเองในขั้นต้น โดยการพยายามหาความช่วยเหลือจากแหล่งต่างๆ เช่น หนังสือ คำบรรยาย/เทศนา ฯลฯ แต่แหล่งต่างๆเหล่านี้อยู่ในขอบเขตที่จำกัดมาก และอาจก่อปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้การให้คำปรึกษาส่วนตัวจึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง เพราะความใกล้ชิดและความเข้าใจกันที่เกิดขึ้น ระหว่างผู้ที่มีปัญหากับผู้ให้คำปรึกษา จะช่วยผู้ให้คำปรึกษาสามารถให้คำแนะนำที่สอดคล้องกับปัญหาของเขาได้มากยิ่งขึ้น และยังสามารถช่วยเขาให้เข้าใจตัวเองและปัญหาของตนมากกว่าเดิม
สรุป คริสเตียนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับคนในสังคมย่อมมีผลกระทบต่อ คริสเตียนเช่นกัน เราจึงต้องช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาอย่างดีที่สุด ท่านต้องทำหน้าที่ของการเป็นที่ปรึกษาที่ดี เพราะเป็นส่วนหนึ่งของงานเลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้า
บทความโดย อ. ประยูร ลิมะหุตะเศรณี