จากพระคำขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าในพระธรรมยอห์น 14:16-17 ได้กล่าวไว้ว่า “เราจะทูลขอพระบิดาและพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป คือพระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน”
คำที่น่าสังเกตในพระธรรมตอนนี้มีสองคำด้วยกัน คำแรกคือคำว่า ‘ผู้ช่วย’ คำนี้ในภาษากรีก (ภาษาที่ใช้ในการบันทึกพระคัมภีร์ใหม่) อ่านออกเสียงว่า (“พาราคลีท Paraclete) แปลว่า ผู้ที่อยู่เคียงข้างเรา หรือ ผู้เล้าโลม หรือที่ปรึกษา และที่ปรึกษาที่พระบิดาจะประทานให้แก่เราก็คือพระวิญญาณแห่งความจริง หรือองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์นั่นเอง
คำที่สองคือคำว่า “อีก” คำว่าอีกที่ใช้ในพระคัมภีร์มีสองคำด้วยกัน คำหนึ่งออกเสียงว่า “เฮเทรอส” (Heteros) แปลว่า อีกท่านหนึ่ง หรืออีกสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกัน (รม.7:23;กท.1:6,7)
ส่วนอีกคำหนึ่งออกเสียงว่า “เอลลอส (Allos) แปลว่า อีกท่านหนึ่ง หรืออีกสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน (ยน.14)
ในพระธรรม อิสยาห์ 9:6 กล่าวว่า
“ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการ ปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่านจะเรียกนามของท่านว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช”
ในพระธรรมยอห์นบทที่ 14 ตอนนี้ใช้คำว่า เอลลอส เพราะฉะนั้น ผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งหรือองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระบิดาจะประทานให้แก่เราตามที่พระเยซูทรงตรัสไว้นี้คือ ผู้ให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดตามแบบฉบับเดียวกันกับองค์พระเยซูคริสต์นั่นเอง
ในการให้คำปรึกษาของพระองค์นั้นพระองค์จะทรงกระทำร่วมกับพระวจนะของพระเจ้า และเป็นผู้ช่วยก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตและแนวทางการดำเนินชีวิตของผู้รับคำปรึกษาได้อย่างแท้จริงด้วย
นอกจากนี้ เป้าหมายของการให้คำปรึกษาแบบคริสเตียนนั้นไม่ได้มุ่งไปที่การเปลี่ยนแปลงทัศคติของผู้รับคำปรึกษาเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่อยู่ด้านในให้เป็นชีวิตใหม่หมดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้คือ “การบังเกิดใหม่” ในเรื่องนี้ไม่มีผู้ให้คำปรึกษาที่เป็นมนุษย์ท่านใดจะสามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกินความสามารถและเกินความเข้าใจของมนุษย์ มีเพียงผู้เดียวที่จะทำให้ผู้มารับการปรึกษาได้บังเกิดใหม่อย่างแท้จริง คือ องค์พระวิญญาณบริสุทธิ์เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ในการให้คำปรึกษาแต่ละครั้งท่านต้องทำร่วมกับ พระวิญญาณบริสุทธิ์ และ พระคำของพระเจ้า เสมอจะขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้
บทความโดย อ. ประยูร ลิมะหุตะเศรณี