บางครั้งคุณอาจรู้สึกเหมือนคนที่ล้มเหลวในการดูแลหรือการเลี้ยงดูลูก คุณอาจจะประสบความล้มเหลวในงานธุรกิจหรือคุณอาจจะลำบากใจในการเคารพกฎเกณฑ์ต่างๆ คุรอาจรู้สึกว่า คุณล้มเหลวในชีวิตสมรส หากคุณเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา คุณอาจจะกลัวไม่อยากไปโรงเรียน เพราะกลัวว่าจะสอบตกหรือทำคะแนนไม่ดี

เมื่อคุณเผชิญกับความล้มเหลวและความผิดพลาดในชีวิต คุณจะจัดการกับมันอย่างไร? ต่อไปนี้จะเป็นข้อคิด 3 ประการที่มักเกิดกับคนล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

ประการแรก “หลีกเลี่ยงและไม่ฟังคำแนะนำใดๆทั้งสิ้น”
โดยเฉพาะจากเพื่อนคริสเตียนที่รักคุณอย่างล้นเหลือ แซมสันเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ เขาไม่เคยฟังคำแนะนำของพ่อแม่เลย แม้ท่านทั้งสองจะพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในที่สุดแซมสันต้องสูญเสียตาทั้ง 2 ข้าง และไปทำงานที่โรงสีข้าว ใช้ชีวิตอย่างทาส และเขาเสียชีวิตขณะต่อสู้เป็นครั้งสุดท้ายกับศัตรูของพระเจ้า แต่ในช่วงที่เขามีชีวิตอยู่นั้น เขาประสบความล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่

ประการที่สอง “หลีกเลี่ยงและไม่ใส่ใจการอธิษบานและการอ่านพระวจนะ”
เพื่อให้แน่ใจว่า คุณจะได้รับความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงนั้น ก็จงอย่าได้ขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า แต่จงลืมพระคำของพระเจ้าเสียเถิด อย่างเช่นใน โยชูวา1.8 “อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัติห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ แล้วเจ้าจะมีความจำเริญ และเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี”

ประการที่ 3 “อยู่เฉย อย่าพยายามทำอะไรเลย”
ชายหนุ่มคนหนึ่งเร่งรีบไปทำงานในตอนเช้า ขณะที่เดินไปนั้นก็ได้สะดุดก้อนหิน ถึงกับล้มลงนอนแผ่ พวกเด็กวัยรุ่นที่นั่งบ้างยืนบ้าง จับกลุ่มกันข้างทางเดินก็หัวเราะเยาะเขา หลังจากที่เขาลุกขึ้นปัดฝุ่นออกตามตัวเขาแล้ว เขาก็พูดขึ้นว่า “เพื่อนเอ๋ย คนที่ไม่เคยทำผิดก็คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย”

ความผิดพลาดครั้งเดียวไม่ได้ทำให้คุณเป็นคนล้มเหลวหรอก บางทีคุณอาจจะประสบกับความล้มเหลว และความผิดพลาดนับไม่ถ้วน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คุณเป็นคนล้มเหลว หรือไม่มีทางดีขึ้นอีกเลยตลอดจนชั่วชีวิต ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การที่คุณจะยึดมั่นและเลือกที่จะคิดถึงความสำเร็จในชีวิตของคุณแทนที่จะคิดถึงแต่ความผิดพลาด ความล้มเหลวที่ผ่านมา

อาจารย์เปาโลรู้สึกว่าท่านไม่ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตคริสเตียนที่สมบูรณ์พร้อมดังที่ท่านกล่าวว่าในฟิลิปปี3.13-14 “ดูก่อน พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่งคือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลซึ่งในพระเยซูคริสต์ พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบนให้เราไปรับ” แต่ท่านไม่ได้รู้สึกว่าท่านจะเป็นคนที่เลวทราม ท่านยังคงมุ่งมั่นไป บากบั่นไปสู่ความสำเร็จที่ท่านต้องการ ความล้มเหลว ความผิดพลาดนั้นไม่จำเป็นว่าจะเป็นปลายทางชีวิตของคุณ คุณอาจจะพ่ายแพ้หลายครั้ง หลายหน แต่คุณไม่ได้สูญเสียทุกสิ่ง หรือหมดสิ้นทุกอย่างทุกครั้ง และถ้าคุณเป็นคริสเตียน คุณจะอยู่ฝ่ายที่ประสบชัยชนะ ทำไมหรือ? เพราะคุณรู้ว่า พระเจ้าจะอยู่ฝ่ายคุณไงล่ะ ดังนั้น ขอให้คุณดูแบบอย่างของอาจารย์เปาโล ผู้ซึ่งพยายามมุ่งมั่นบากบั่นไปสู่ความสำเร็จที่ต้องการ

ต่อไปนี้คือ ขั้นตอน 3 ขั้นที่จะนำคุณเผชิญกับความล้มเหลวว่าคุณจะจัดการกับมันอย่างไร

ขั้นตอนที่ 1 “การยอมรับความผิดพลาด” กษัตริย์ดาวิดทำผิดบาปที่ได้ล่วงประเวณีกับนางบัทเชบา และบงการให้สามีของนางไปตาย พระองค์เขียนในพระธรรมสดุดีบทที่ 51 ซึ่งกล่าวถึงการยอมรับในความผิดที่ก่อขึ้นและได้ทูลขอการอภัยโทษจากพระเจ้าจะดีกว่ามากเพียงใด หากคุณจะยอมรับความล้มเหลวหรือความผิดพลาดนั้นๆ และทูลขอการอภัยโทษจากพระเจ้า แทนที่จะปกปิดความผิดพลาดเหล่านั้น

ขั้นตอนที่ 2 “การเรียนรู้จักความผิดพลาด และความล้มเหลวที่ผ่านมา” คุณอาจจะตั้งคำถามว่า “พระองค์ต้องการสอนอะไรกับคุณ จากความผิดพลาดของคุณในครั้งนี้?” ขอให้คุณคิดดูว่า เด็กเล็กๆนั้นจะต้องล้มสักกี่ครั้งกว่าพวกเขาจะเดินได้คล่อง…
เอดิสัน (ผู้คิดค้นประดิษฐ์หลอดไฟที่เราใช้กันจนทุกวันนี้) ได้พยายามใช้เส้นลวดถึง 700 เส้น เพื่อจะหาเส้นที่จะใช้ทำหลอดไฟฟ้าได้ บางคนถามท่านว่า ท่านรู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจบ้างไหม ท่านตอบว่า ‘ไม่เลย’ ท่านได้เรียนรู้ว่ามีเส้นลวดถึง 700 เส้นที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้

ขั้นตอนที่ 3 “วางแผนที่จะนำความสำเร็จมาสู่ตัว” การที่เราไม่คิดกิจการใดไว้เลย หรือปล่อยเวลาผ่านไปโดยปราศจากจุดมุ่งหมายนั้นก็เท่ากับว่าเรายอมให้ความล้มเหลวนั้นเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเราอย่างเต็มที่ องค์พระเยซูคริสต์ทรงตรัสถึงชายที่ต้องการสร้างหอสูง แต่เขาไม่ได้วางแผนไว้อย่างดี ลูกา14.28-30 กล่าวว่า “ด้วยว่าในพวกท่านมีผู้ใด เมื่อปรารถนาจะสร้างตึก จะไม่นั่งลงคิดดูราคาเสียก่อนว่าจะมีพอสร้าง ให้สำเร็จได้หรือไม่ เกรงว่าเมื่อลงรากแล้วและกระทำไม่สำเร็จไม่ได้ คนทั้งปวงที่เห็นจะเยาะเย้ยเขาว่า คนนี้ตั้งต้นก่อ แต่ทำให้สำเร็จไม่ได้

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ ผมมักจะคิดถึงองค์พระเยซูคริสต์ หลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ เหล่าสาวกก็ต้องเผชิญหน้ากับพระองค์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความละอาย และอดสูอยู่ในใจ เพราะพวกเขาได้ละทิ้งพระองค์ไป

ระหว่างที่พวกทหารโรมันได้จับกุมพระองค์ที่สวนเกทเสเมเน และเปโตรก็ได้ปฏิเสธพระองค์ ไม่มีใครสักคนที่จะยืนเคียงข้างกับพระองค์ ขณะที่พระองค์ต้องการใครสักคนในเวลานั้น แต่ลองคิดกันว่า พระองค์ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร?

ประการแรก ไม่มีแม้แต่คำเดียวที่จะกล่าวถึงความล้มเหลวของพวกเหล่าสาวกซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ขององค์พระเยซูคริสต์ สิ่งแรกที่พระองค์ตรัสกับพวกเขาคือคำว่า (ยน20.19-21) “สันติสุขจงดำรงอยู่ในท่านทั้งหลายเถิด” พระองค์ทรงทำให้ความกลัวและความคับข้องใจหรืออึดอัดใจของพวกเขาสงบลง แล้วสันติสุขของพระองค์จึงเข้ามาแทนที่ความกลัวต่อความล้มเหลวของพวกเขา

ประการที่สอง “ครั้นพระองค์ตรัสอย่างนั้นแล้ว พระองค์ทรงให้เขาดูพระหัตถ์และสีข้างของพระองค์” (ข้อ20) คุณกำลังเผชิญกับความตาย ซึ่งเป็นความล้มเหลวครั้งสุดท้ายหรือ องค์พระเยซูคริสต์เจ้าจะทรงสำแดงพระหัตถ์และสีข้างของพระองค์ให้คุณดู เพื่อจะเตือนให้คุณรู้ว่า พระองค์ได้มีชัยชนะเหนือความตายแล้ว และคุณก็สามารถรอดและเป็นพระคริสต์ของคุณเสียแต่วันนี้เถิด และความตายจะไม่มีชัยชนะเหนือคุณอีกต่อไป คุณจะมีชัยชนะเหนือความตายเหมือนดังพระองค์ และคุณจะสามารถสนุกสนานไปกับความสวยสดงดงามของแผ่นดินสวรรค์ ตราบชั่วนิรันดร์ นี่คือความสำเร็จล่ะ

ประการสุดท้าย องค์พระเยซูคริสต์ทรงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดทรงใช้เรามาฉันใด เราก็ใช้ท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” (ข้อ21) พระองค์ได้บอกกับคุณว่าพระองค์จะทรงช่วยคุณจัดการกับความล้มเหลวที่ผ่านมาอย่างไร พระองค์ทรงบอกคุณ เชื้อเชิญคุณมาร่วมทำงานกับพระองค์ในการนำข่าวประสริฐไปสู่ผู้อื่น ดังนั้น ขอให้เราลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาเสียแล้วและมุ่งมั่นในการรับใช้ ทำงานกับพระองค์ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายที่สูงส่งนี้กันเถิด

คุณเคยประสบความผิดพลาดและความล้มเหลวบ้างมั้ย?

ข้อมูลจากฝ่าย ประชาสัมพันธ์ วันที่ 26/12/2003