คริสเตียนจะตอบสนองอย่างไร หากถูกเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ เมื่อต้องไปติดต่องาน ซึ่งจะมีผลทำให้งานล่าช้าได้หากปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว
ผมรู้สึกว่าคำถามข้อนี้จะตอบให้จุใจก็ไม่ง่ายทีเดียว เราอยู่ในสังคมที่การให้เงินใต้โต๊ะกลายเป็นสิ่งธรรมดา ในการทำธุรกิจหรือการติดต่องานบางอย่าง การให้เงินใต้โต๊ะเกือบจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นหากอยากเห็นงานดำเนินไปอย่างราบรื่นสะดวกหรือรวดเร็ว
บางคนให้ข้อคิดว่าเนื่องจากการให้เงินใต้โต๊ะเป็นสิ่งที่ยอมรับกันในวงสังคมระดับหนึ่ง เราอาจมองในแง่บวกคือในแง่ของการให้กำลังใจหรือการขอบคุณล่วงหน้าในการที่เขาช่วยทำอะไรบางอย่างให้หรืออำนวยความสะดวกให้เหมือนกับการให้ทิปในต่างประเทศซึ่งปฏิบัติกันอย่างกว้างขวาง และดูเหมือนพระคัมภีร์บางข้อก็สนับสนุนเช่นนั้น เช่น สุภาษิต 18: 16 กล่าวว่า “ของกำนัล (หรือของขวัญ) ของผู้หนึ่งผู้ใดย่อมเปิดทางให้ผู้นั้นและนำเขามาถึงคนใหญ่คนโต” (ดูสุภาษิต 19: 6)
แต่ในเวลาเดียวกัน เมื่อเรามองในแง่ของหลักการตามพระคัมภีร์และหลักจริงยธรรมแล้ว การให้เงินใต้โต๊ะก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม้แต่คำว่า “เงินใต้โต๊ะ”ก็ส่อความไม่ปกติและไม่สุจริตในตัวของมันเองอยู่แล้ว จึงต้องแอบๆให้กันโดย”ให้ใต้โต๊ะ” คือให้แบบไม่โจ่งแจ้งไม่ให้ใครรู้ใครเห็น สิ่งใดก็ตามที่ต้องแอบๆทำแสดงว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎระเบียบที่เป็นมาตรฐานและความถุกต้อง เราไม่สมควรจะทำ แม้ว่าจะมีคนมากกลุ่มทำกันก็ตาม
นอกจากนี้แล้ว การให้เงินใต้โต๊ะถือเป็นลักษณะของการให้สินบนเป้นการส่งเสริมให้คนทำผิด พระคัมภีร์ได้เตือนให้เลี่ยงการให้สินบนในพระธรรมหลายๆตอน เช่น “คนชั่วร้ายรับสินบนจากอกเสื้อเพื่อผันแปรทางแห่งความยุติธรรม”(สุภาษิต 17:23)”อย่ารับสินบนเลย เพราะว่าสินบนทำให้คนตาดีกลายเป็นคนตาบอดไป และอาจพลิกคดีของคนชอบธรรมเสียได้” (อพยพ 23: 8 ดู 1ซามูเอล 8: 3และ อิสยาห์ 45: 13)
ถ้าเช่นนั้นเราจะทำอย่างไร? คงไม่มีคำตอบง่ายๆเสียทีเดียว แต่ที่แน่ชัดก็คือเราต้องมีจุดยืนตามพระวจนะของพระเจ้าขอสติปัญญาจากพระองค์ในกรณีต่างๆที่เกิดขึ้น ผมเคยได้ยินคริสเตียนที่รักพระเจ้าบางคนเป็นพยานถึงการไม่ยอมให้เงินใต้โต๊ะในการติดต่อธุรกิจ เขาขอการทรงช่วยเหลือจากพระเจ้า พระองค์ก็ทรงนำให้สามารถทำธุรกิจกับคนอื่นในทางที่ถูกต้องและประสบความสำเร็จมากกว่าที่คาดคิดไว้ ในบางกรณีเราอาจต้องยอมเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบและรับความเสียหายบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อเห็นแก่ความถูกต้อง อย่างที่พระคัมภีร์ได้หนุนใจในกรณีที่เป็นความกับพี่น้องคริสเตียนด้วยกันว่า “ทำไมท่านจึงไม่ยอมให้เขาโกง” (1คร.5:7)
พระเจ้าตรัสว่า “ผู้ที่ให้เกียรติเรา เราจะให้เกียรติ” (1ซมอ. 2:30) หากเรารักษาจุดยืนที่ดีเพื่อพระเจ้าจริงๆและขอสติปัญญาจากพระองค์ เชื่อว่าพระองค์จะทรงให้ทางออกที่ดีแก่เรา และในที่สุดเราก็จะได้รับพระพร แม้จะดูเหมือนว่าเวลานั้นเราจะเสียเปรียบเสียหายบ้างก็ตาม
บทความโดย ศจ. ดร. ธีระ เจนพิริยประยูร 19/02/2009