เหตุใดคู่แต่งงานจึงสูญเสีย “ความเป็นคู่รัก” ที่มีต่อกัน ?

ชาย-หญิงเกือบทุกคน มักเคยผ่านประสบการณ์เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของความรัก และมีอาการที่เราเรียกว่า“ตกหลุมรัก” (Fall in Love) อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต จนกระทั่งได้แต่งงานกัน มีชีวิตเป็นสามี-ภรรยากันและได้อยู่กินด้วยกันฉันท์ครอบครัว แต่อนิจจา! น่าเสียดายที่หลังแต่งงานกันแล้ว สามีภรรยาส่วนใหญ่ ก็พบว่า คุณทั้งสองได้กระเด็นออกจาก “หลุมรัก” หรือ “ความเป็นคู่รัก” ได้สูญหายไปจากชีวิตของเขาทั้งสองเสียแล้ว ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

เหตุใดคู่แต่งงานจึงสูญเสีย “ความเป็นคู่รัก” ที่มีต่อกัน ?
สามีภรรยามากมาย เมื่อได้อยู่กินด้วยกันและใช้ชีวิตร่วมกันไปได้สักระยะหนึ่ง เขามักจะพบว่า ความรู้ สึก “ตกหลุมรัก” ได้อันตรธานไปจากความสัมพันธ์ของพวกเขา ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ สามีภรรยามากมาย คิดว่า ประสบการณ์ครั้งที่ยังเป็น “คู่รัก” กันอยู่นั้น เป็นความรู้สึกทางอารมณ์ที่หลอกลวง และเป็นการเสแสร้งทั้งสิ้น หรือไม่ก็ เป็นความผิดพลาดของชีวิตที่ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมอยู่ทุกวันนี้ แต่ความจริงแล้ว หาเป็นเช่นนั้นไม่ เราไม่จำเป็นต้องก้มหน้าก้มตารับความทุกข์ใจจากชีวิตรักในครอบครัวของเราเลย

การที่เราได้กระเด็น “ออกจากหลุมรัก” เกิดจากสาเหตุหลายประการ สาเหตุที่สำคัญ คือ

1. มีปัญหาในการสื่อสัมพันธ์ คือ ความไม่เข้าใจกัน ไม่รู้จะสื่อความหมายที่แต่ละฝ่ายต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับรู้ได้อย่างไร ทั้งนี้ก่อนแต่งงานไม่ได้ตรวจสอบระบบสื่อสัมพันธ์กันอย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อมาเป็นสามีภรรยากัน จึงพบว่า การสื่อสัมพันธ์ ที่มีอยู่ไม่มีพื้นฐานที่ดีเพียงพอ

2. มีปัญหาบุคคลที่สาม คือ บุคคลอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสามีภรรยา ได้เข้ามามีส่วนพัวพันด้วย จึงทำให้ทั้งสองคน ต้องแบ่งปัน ความรัก เวลา กำลัง และ ทรัพยากร อื่นๆ ให้กับบุคคลเหล่านั้น เช่น พ่อแม่ ญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่าย หรือ แม้กระทั่งลูกๆของตนเองก็ตาม ดังนั้น สามีภรรยาคนใดคนหนึ่ง หรือ ทั้งสองคนจึง ให้ และ รับ ความรักแก่กันและกันไม่เพียงพอ

3. มีปัญหาด้านการเงิน คือ ก่อนแต่งงานหนุ่มสาวส่วนใหญ่มักคิดว่า อยู่กันด้วยความรักได้ เรื่องเงินทองไม่สำคัญ แต่พอมาอยู่กินด้วยกันจริงๆ ก็เริ่มรู้แล้วว่า ความรักที่ไม่มีเงินพอเสียค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็น หรือ เขามีเงินเพียงพอ แต่ไม่เห็นพ้องกันเรื่องการใช้จ่ายในครอบครัว จึงก่อให้เกิดความตึงเครียดในการดำเนินชีวิตครอบครัวได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบกระเทือนต่อ “หลุมรัก” ของเขาทั้งสองได้

4. มีปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ คือ ก่อนแต่งงาน “คู่รัก”ทั้งสอง อาจคาดหวังเรื่องเพศจากกันและกันไว้มาก แต่ประสบการณ์เพศสัมพันธ์ของคู่แต่งงานไม่ได้ถึงมาตรฐานตามความเฟ้อฝันของกัน สามีภรรยาจึงครุ่นคิดไปว่า คู่ชีวิตของเราคงมีอะไรผิดปกติ และตัวเราเองไม่มีอะไรผิดปกติ จึงทำให้ความสัมพันธ์ทางเพศ ไม่ได้มีความสุขที่พึงพอใจแก่เราตามที่คาดหวังรอคอยมา ความผิดหวังทางเพศ จึงเป็นเหมือนกับเมฆดำที่บังแสงสดใสของ “ความเป็นคู่รัก” ที่มีต่อกันไป

เราจะรักษา “ความเป็นคู่รัก” ระหว่างสามีภรรยา ได้อย่างไร

1. ความรักของสามีภรรยา ต้องมีการให้ต่อกัน ด้วยความเสียสละเสมอๆ
สามีภรรยาต้องเข้าใจและยอมรับว่า ความรัก คือ การให้ ตัวเราเองแก่กันและกัน ไม่ว่าเราจะมีอารมณ์ ความรู้สึกที่จะทำเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม เพราะว่า ความรักมีการเจริญเติบโตไปตามขั้นตอน นอกจากความโรแมนติคแล้ว ความรักต้องเพิ่มด้วยองค์ประกอบอื่นๆอีก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้เป็นคู่ชีวิตที่สมบูรณ์ และ องค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญของความรัก ก็คือ การให้ด้วยความเสียสละ

2. ความรักของสามีภรรยา ต้องหาโอกาสและวิถีทาง ที่จะทำคุณประโยชน์ให้แก่กันเสมอ
สามีภรรยาส่วนมาก มักดำเนินชีวิตอย่าง เห็นแก่ตัว เกือบจะทุกส่วนในชีวิตครอบครัวของเรา เช่น เรื่องการปฏิบัติต่อกัน เราอยากให้เขาปรนนิบัติเราหรือทำงานบ้านมากกว่า ความเห็นแก่ตัวในเรื่องการใช้เงิน ใช้อำนาจ ความคิดเห็น การเลี้ยงลูก แม้กระทั้งความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างสามีภรรยาก็ตาม สามีภรรยามักเอาความต้องการของตนเป็นใหญ่ แต่หากเราต้องการให้ ความเป็นคู่รัก ดำรงอยู่อย่างมั่นคง สามีภรรยาต้องพัฒนาความรักให้เติบโต จนถึงขนาดที่ความรักของเรา มีแต่การ หาโอกาส ที่จะปรนนิบัติ และ ทำคุณประโยชน์ให้แก่กันและกันด้วยความจริงใจและด้วยความยินดี

3. ความรักของสามีภรรยา ต้องขึ้นอยู่กับ “การกระทำ”ที่ออกมาจากใจที่สัตย์ซื่อ สามีภรรยามากมาย ที่รักด้วยความตั้งใจที่ดี และ พูดว่า “รัก” ได้อย่างน่าเชื่อถือศรัทธา แต่น่าเสียดายที่ความรักนั้นปราศจากการกระทำที่ดี เพราะว่า ความรักที่ปราศจากการกระทำก็เป็นความรักที่ตายแล้ว และจะส่งผลกระทบต่อ “ความเป็นคู่รัก” ดังนั้นสามีภรรยาจึงต้องช่วยกันพัฒนาความรักให้เติบโตขึ้นโดยไม่อาศัยความตั้งใจหรือคำพูดที่ไพเราะหูเท่านั้นแต่ต้องขึ้นอยู่กับการกระทำที่ดี ซึ่งออกมาจากใจที่สัตย์ซื่อด้วย สามีภรรยาที่ตั้งใจ หมั่นฝึกฝนและพัฒนาความรักที่มีต่อกันเสมอๆ จะแปลกใจที่พบว่า ความรู้สึกแห่งความเป็นคู่รัก หรือ อารมณ์ของการตกหลุมรักจะค่อยๆกลับมาหาคุณทั้งสองอีก อย่าเสียใจหรือเสียดายความรู้สึกของ “การเป็นคู่รัก” ที่สูญหายไปในอดีต แต่จงสร้างมันขึ้นมาใหม่ แล้วจงเก็บรักษามันไว้ตลอดไป

  โดย ศจ.บุญชาย อิทธิเวชช์