ปัจจุบันเรื่อง “รักร่วมเพศ” เป็นเรื่องหนึงที่มีผู้สนใจกันมาก เป็นเรื่องที่ถือกันว่าผิดปกติในสังคม ถ้าท่านผู้บังเอิญเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาในเรื่องการรักร่วมเพศ ผู้เขียนขอชี้แจงให้ท่านเข้าใจว่า ไม่ท่านจะตกอยู่ในสภาพนี้มากเท่าไร ความเป็นคนของท่านไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่น ๆ เลย ท่านเป็นแต่คนป่วยที่ต้องการแพทย์รักษา พระเจ้ารักษาท่านเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงรักษาคนอื่น ๆ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวผมจึงนำท่านมาถึงความเข้าใจ เรื่อง รักร่วมเพศ
รักร่วมเพศ คืออะไร
” รักร่วมเพศ ” หมายถึงพฤติกรรมด้านความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เป็นเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างหญิงต่อหญิง ซึ่งเราเรียกว่า “เลสเบี้ยน” หรือชายต่อชาย ซึ่งเราเรียกว่า “โฮโมเซ็กช่วล” ความจริงคำว่า” โฮโมเซ็กซ่วล” มิได้หมายถึง พฤติกรรมทางเพศระหว่างชายต่อชายเท่านั้น แต่รวมทั้งพฤติกรรมทางเพศระหว่างหญิงต่อหญิงด้วย ส่วนคำว่า “เลสเบี้ยน ” หมายถึง ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างหญิงต่อหญิงเท่านั้น ซึ่งคำนี้มาจากชื่อเกาะโบราณเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศกรีซ ชื่อ “เลสบอส ” สาเหตุสืบเนื่องมาจากหญิงคนหนึ่งบนเกาะนี้ได้เปิดโรงเรียนสตรีขึ้น ต่อมาไม่นานหญิงผู้นี้ก็ได้หลงรักนักเรีนรหญิงบางคน เธอจึงได้เขียนบทประพันธ์ที่เป็นร้อยกรองบรรยาย ถึงพฤติกรรมความสัมพันธ์ทางเพศ ระหว่างเธอกับนักเรียนของเธอบทหนึ่ง และบทกลอนนี้เองทำให้เกิดเสียงลือกันในเวลาต่อมาว่า หญิงทุกคนบนเกาะนี้มีพฤติกรรมทางเพศต่อกัน ดังนั้นคำว่า “เลสเบี้ยน” ซึ่งหมายถึงหญิงชาวเกาะเลสเบี้ยนก็นำมาใช้เรียกหญิงที่มีพฤติกรรมทางรักร่วมเพศตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ในเวลาต่อมาพวกรักร่วมเพศนี้ จะเรียกตนเองว่า “เกย์ ” ซึ่งแปลว่าสนุสนานร่าเริง สดชื่นแจ่มใส เหตุที่เขาเรียกตนเองเองเช่นนี้ก็เพื่อเป็นการคัดค้านผลสรุปของบรรดาผูเชี่ยวฃาญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่าผู้ที่มีความรู้สึก หรืออารมณ์รักร่วมเพศนี้เป็นคนผิดปกติ
สาเหตุของรักร่วมเพศ
ความจริงเกี่ยวกับสาเหตุในเรื่องรักร่วมเพศนี้ เป็นที่รู้กันแล้วว่าไม่ได้เกิดจากกรรมพันธ์ แต่เกิดจากเรียนรู้จากสิ่งวดล้อมภายนอกทั้งสิ้น ที่นี้เราจะหยิบยกสาเหตุที่สำคัญ ๆ บางประการขึ้นมาชี้แจง เพื่อประยชน์ในการแก้ไข และป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดของเรา
ประการแรกเกี่ยวกับ ความผิดปกติของครอบครัว คือ ในครอบครัวที่พ่อแม่ต้องแยกกันอยู่ ทำให้การฝึกฝนเด็กไปในทางใดทางหนึ่งเท่านั้น ทำให้เด็กขาดแบบอย่างที่สมบรูณ์จากพ่อ-แม่ ในการสร้างลักษณะชีวิตที่เป็นหญิงหรือชายได้ กรณีนี้รวมทั้งพ่อแม่ที่อยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้เอาใจใส่ในการอบรมสั่งสอนเด็กเท่าที่ควรด้วย
ประการที่สอง เกิดจากพ่อ-แม่ในครอบครัวที่อยากได้เด็ก เพศใดเพศหนึ่ง แต่ไม่สมหวังก็จึงพยายามที่จะอบรมลูกในแนวทางตามเพศที่ตนต้องการ เช่นแต่งตัวลูกชายให้เป็นแบบเด็กหญิง หรือหัดให้ทำการงานต่าง ๆ แบบเด็กหญิง เป็นต้น การกระทำเช่นนี้ทำให้เด็กเกิดความสับสนในการวางตัว เนื่องจากไม่มั่นใจว่าเพศที่ตนเป็นอยู่นั้นดีจริงหรือไม่เพราะเห็นว่าพ่อแม่ที่ตนรักก็ยังปฎิเสธเพศของตนเอง
ประการที่สาม เกิดจากเด็กที่มีประสบการณ์ทางเพศที่ไม่ถูกต้อง เช่นประสบการณ์ในทางไม่ดีกับเพศตรงข้าม ทำให้เกิดความเกลียดชังเพศตรงข้าม หรือได้รับคำแนะนำและชักชวนให้มีพฤติกรรมทางเพศที่ผิด เช่นการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง หรือมีเพศสัมผัสกับเพศเดียวกัน
จากสาเหตุที่สำคัญดังกล่าวนี้เองที่เป็นแรงผลักดันให้คน ๆ นั้นไปยืนอยู่ในตำแหน่งของพวกรักรวมเพศ และถ้าหากว่าเขาเกิดไปมีประสบการณ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และเกิดความสุขความพอใจกับประสบการณ์ครั้งนั้น ก็จะเป็นแรงผลักดันให้ทำอีก และเมื่อได้รับความสุขมากขึ้น เขาก็จะมุ่งความสนใจสู่เพศเดียวกันเท่านั้น ในระยะนี้เขาควรได้รับการเปลี่ยนแปลงเพื่อจะไม่เป็นคนรักร่วมเพศโดยสมบูรณ์
รักร่วมเพศผิดปกติหรือไม่
ลักษณะจิตใจโดยทั่วไปของผู้รักร่วมเพศ
คนรักร่วมเพศบางคนจะไม่มีความแน่นอนทางด้านจิตใจ ไม่สามารถที่จะตัดสินใจอะไรอย่างเด็ดขาดได้ เนื่องจากพวกเขาไม่มั่นใจว่าพื้นฐานที่ใช้ในการตัดสินใจนั้นถูกต้องอย่างแน่นอนหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีความหวาดระแวงอยู่เสมอ มักจะสนใจว่าคนอื่นเขามองตนเองว่าปกติหรือไม่ และมีส่วนไหนที่เป็นสาเหตุให้เขาเห็นว่าตนเองเป็นคนผิดปกติ ดังนั้นคนพวกนี้จึงไม่มีความไว้ใจคนอื่นเลย และไม่มีความเชื่อมั่นในตนเองเท่าที่ควร ความรุ้สึกอีกอย่างหนึ่ง คือ ความiรู้สึกไม่มั่นคงในเสถียรภาพของตนเองทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ส่วนใหญ่จะมีความใฝ่ฝันอนาคตของตนเองอย่างผิด ๆ เช่นชายที่มีความรู้สึกว่าตนเองเป็นหญิงก็จะจิตนาการไปว่าตนเองเป็นผู้หญิง และสามารถที่จะแต่งงานมีครอบครัว และมีลูกเหมือนหญิงทั่ว ๆ ไปได้ คนบางคนที่มีฐานะก็จะพยายามแต่งเสริมอวันยะบงส่วนให้ใกล้เคียงเพศหญิงมากที่สุด เช่นผ่าตัดอวัยวะเพศ และการเสริมหน้าอกเป็นต้น
คนรักร่วมเพศบางคนมีลักษณะจิตใจที่อ่อนไหวและรุนแรง มักจะระงับอารมณ์ไว้ไม่ค่อยได้ดีเท่าที่ควร เกี่ยวกับด้านการพัฒนาการทางจิตใจก็เป็นไปอย่างช้า ๆ จนผิดปกติ ซึ่งทำให้ลักษณะจิตใจต่างจากวัยที่เป็นอยู่มาก
รักร่วมเพศผิดปกติหรือไม่
การรักร่วมเพศถือว่าเป็นความผิดปกติทั้งด้านอารมณ์ และด้านจิตใจ ประเทศบางประเทสถึงกับออกกฎหมายประหารชีวิตผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ส่วนด้านศีลธรรมถือว่าเป็นความบาปร้ายแรง บรรดาจิตแพทย์ก็หาได้นิ่งนอนไม่ เขาได้พยายามหาช่องทางที่จะแก้ไข หรือรักษาคนที่มีปัญหาเหล่านี้ แต่ก็ยังไม่พบวิธีการหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดช่วยคนประเภทนี้ได้อย่างแท้จริง ในที่สุดบรรดาจิตแพทย์เชียวชาญทางด้านนี้ก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่า คนที่เป็นเกย์ หรือเลสเบี้ยนนั้นเป็นคนปกติทั่วไป ถึงกระนั้นก็ตามทางด้านศีลธรรมก็ยังถือว่าพฤติกรรมดังกล่าวยังเป็นสิ่งที่ผิดปกติไม่สมควรกระทำ
ความจริงจากพระคัมภีร์เรื่องรักร่วมเพศ
ในพระธรรม มท.19:4-8 มีข้อความที่พระเยซูทรงกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางเพศตามปกติของชาติ และหญิงไว้ดังนี้ ” พระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์แต่เดิม ได้ทรงสร้างให้เป็นชาย และหญิง ..เพราะเหตุนั้นบุรุษจึงต้องละบิดามมารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน เหตุฉะนั้นซึ่งพระเจ้าทรงผูกพันกันแล้ว อย่าให้มนุษย์ทำให้พรากจากกันเลย ” จากพระธรรมนี้จะเห็นว่าความสัมพนธ์ทางเพศที่ปกติ นั้น จะต้องเกิดขึ้นระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ ดังนั้นพระองค์จึงสร้างมนุษย์ให้ทีมีสองเพศ ในพระคัมภีร์การรักร่วมเพศจึงถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติ เมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ต้องพินาศ ก็เพราะความบาปในเรื่องรักร่วมเพศนี้ (ปฐก.19) นอกจากนี้ในพระบัญญัติของโมเสสยังกำหนดโทษของผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวนี้ถึงตาย (ลนต. 20:12 ,รม. 1: 26,27 ,28 )และใน 1 โครินธ์ 6: 9 กล่าวไว้ว่า ” ท่านไม่รู้หรือว่าคนอธรรมไม่มีส่วนในแผ่นดินของพะรเจ้า อย่าหลงเลย คนล่วงประเวณี คนถือรูปเคารพ คนผิดผัวผิดเมีย ลูกสวาทหรือชายเล่นลูกสวาท”
คำตอบสำหรับเรื่องนี้
คำตอบสำหรับปัญหาในเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองด้าน คือด้านป้องกัน และด้านรักษา
ด้านป้องกัน ด้านนี้เป็นด้านที่ดีกว่าด้านการรักษา เมื่อเราได้พบความจริงว่าอาการรักร่วมเพศนี้มีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อมภายนอกตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ก็เป็นการง่ายที่จะป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับลูกหลานของเรา โดยให้ความสนใจในการอบรมสั่งสอนเด็กอย่างถูกต้อง ดังนั้นผู้ที่เป็นพ่อ-แม่ หรือผู้ปกครองเด็กจึงควรจะสร้างสิ่งแวดล้อมในครอบครัวให้ดี ให้เด็กมีโอกาสคบกับคนเพศเดียวกันโดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ที่เป็นเพศเดียวกัน และสอนให้เด็กเชื่อฟังพระเจ้า และทำตนให้เป็นที่พอพระทัยพระองค์
อีกด้านหนึ่งก็คือ รักษา เราต้องเข้าใจว่าผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้จะมีทางรักษาให้หายขาดได้ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยากก็ตามแต่ไม่มีเรื่องใดที่เกินความสามารถของพระเจ้าได้ ดังขั้นตอนต่อไปนี้
1. ควรมีความปราถนาที่จะเลิกจากพฤติกรรมรักร่วมเพศอย่างแท้จริง
2. ความเชื่อว่าพระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชาย และหญิง และผู้ทรงรักเรา พร้อมที่จะช่วยเรา
3. ควรพยายามดำเนินชีวิตภายใต้การควบคุมของพระวิญญาณบริสุทธิ์ร่วมกับพระวจนะของพระเจ้า
4. ควรเรียนรู้จักที่จะควบคุมความคิดของตนเอง โดยอาศัยกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
5. ควรหลีกเลี่ยงจากทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องรักร่วมเพศอย่างสิ้เชิงโดยไม่มีข้อยกเว้น
6. ควรร่วมสามัคคีธรรม และกระทำกิจกรรมของคริสตจักรกับพี่น้องคริสเตียนอื่น ๆ
7. ควรขอบคุณพระเจ้าในเพศที่พระองค์ประทานให้ และเรียนรู้ที่จะรัก และใช้มันอย่างถูกต้อง
8. ควรรู้จักที่จะอธิษฐาน และคิดถึงชีวิตครอบครัวที่ถูกต้องในอนาคต โดยฝากความหวังดังกล่าวไว้ในการทรงนำของพระเจ้า
9. ควรเรียนรู้จักอุทิศร่างกายของตนให้แก่องค์พระผู้เป็นเจ้าและอธิษฐานขอให้พระองค์ทรงช่วยท่านในการช่วยเหลือคนอื่นให้หลุดพ้นจากการตกเป็นทาสของความบาปดังกล่าว
เราแน่ใจว่าพระเจ้าจะทรงช่วยผู้ที่รักพระองค์ให้มีชีวิตที่สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์
บทความโดย อ. ประยูร ลิมะหุตะเศรณี