…เวลาสิบโมงเช้าที่บ้านของดันแฮม

ฉันรู้ว่ามันจะเป็นวันที่แย่มากทีเดียว ลูกๆสามคนอยู่ในอารมณ์หงุดหงิด จู้จี้ และเรียกร้องความสนใจ และฉันไม่มีเวลาพอที่จะให้พวกเขา แขกจากนอกเมืองจะมาถึงในตอนบ่าย ต้องเตรียมบทเรียนสำหรับรวีวารศึกษา และฉันต้องไปเยี่ยมเพื่อนซึ่งอยู่ในภาวะที่ท้อถอยมากคนหนึ่ง ที่คงจะแปลกใจว่าทำไมฉันยังไม่ได้ไปหาเธอ หากฉันไม่ไปวันนี้ พรุ่งนี้เธอจะไม่ไปโบสถ์ เธอต้องการคำปรึกษา และต้องการกำลังจากพี่น้องในครอบครัวคริสเตียนมากในเวลานี้

เจ้าสุนัขตัวใหม่ของเราดูมันอ้วนป้อมน่ารัก น่ากอด เกิดไปกัดโจชัว ลูกชายคนเล็กของเราที่บริเวณเหนือลูกตา เจ้าลูกน้อยก็เลยแผดเสียงร้องลั่น พร้อมทั้งมีเลือดไหลออกมาจากใบหน้า ฉันก็เลยเตะเจ้าสุนัขพลั่กหนึ่ง แล้ววิ่งจี๋ไปเอาผ้าสะอาดมาเช็ดล้างแผลให้ลูก
ลูกอีกคนหนึ่งร้องบอกมาว่า “คุณแม่ มีคนอยู่หน้าประตูบ้านแน่ะ”
“ออกไปเชิญเขาเข้ามาในห้องซีลูก บอกเขาว่าอีกสักครู่แม่จะออกไป”
ฉันอธิษฐานในใจว่า “ทรงโปรดเถิด ขออย่าให้ต้องรับแขกตอนนี้เลย”
ฉันปลอบใจโจชัวและสัญญาว่าจะพาเขาไปในเมืองในภายหลัง หากเขาจะหยุดร้องไห้ มันเป็นการติดสินบน เพราะฉันไม่ต้องการที่จะมีงานอย่างอื่นเพิ่มเข้ามาในตารางเวลาวันนี้อีก…ได้ผล โจชัว หยุดร้องไห้ ฉันล้างมือ ระบายรอยยิ้มไว้บนใบหน้าในขณะที่ออกไปทักทายแขกคนแรกของเช้านี้

ที่แท้เธอคือพัชรา คริสเตียนใหม่ของเราคนหนึ่ง ในการทักทายถามทุกข์สุขกันนั้น ฉันยิ้มรับคำถามของเธอและตอบว่า “ฉันสบายดีค่ะ” …ยังไม่ทันเที่ยงวันเลยฉันได้เตะสุนัขไปเรียบร้อยแล้ว เอะอะกับลูกๆและเดี๋ยวนี้ฉันกำลังพูดปด มันไม่ได้สบายดีอย่างที่พูดเลย และฉันก็ไม่มีเจตนาให้เป็นอย่างนั้นเลยสำหรับวันนี้ อารมณ์ของฉันมันมืดครึ้มเหมือนกาแฟที่ฉันกำลังยกมาให้แขก

“แมรี่ ฉันมานี่ก็เพื่อขอให้คุณอธิษฐานเผื่อฉันหน่อย”
ฉันกระแอมอย่างสุภาพ ระคนกับความประหลาดใจว่าเธอรู้สึกอย่างไร หากว่าฉันจะบอกความจริงแก่เธอว่า สิ่งหนึ่งในโลกนี้ที่ฉันไม่อยากทำขณะนี้ก็คือ อธิษฐาน และก็แน่ใจเหลือเกินว่า พระเจ้าคงจะไม่ทรงรับฟัง “โอ หากฉันมีปีกเหมือนนกพิราบและสามารถบินหนีไปได้” ข้อความจากพระธรรมสดุดีได้อธิบายความรู้สึกของฉันได้เหมือนจริง อย่างน้อยที่สุดมันเป็นข้อคิดแรกในวันนี้จากพระคัมภีร์ที่ผุดขึ้นมาปลอบใจตัวเอง

ฉากภาพอาจเปลี่ยนจากบ้านหนึ่งไปอีกบ้านหนึ่ง แต่สตรีทั้งหลายที่เป็นผู้นำหรือเป็นผู้แบ่งเบาความรับผิดชอบจากสามีของเธอนั้น รู้ดีว่าความเครียดคืออะไร ไม่ว่าเราเพียรพยายามที่จะขจัดสิ่งที่น่ากลัวนี้ให้ออกไปให้พ้นจากบ้านของเรา อย่างไร มันก็ปรากฎออกมาโดยการฝืนยิ้ม โดยคำพูดเสียดแทงสั้นๆหรือการเก็บกดความขมขื่นต่อสามชิกในครอบครัวเอาไว้ เด็กทารกรู้สึกได้ว่ามีสิ่งนี้อยู่และระบายออกโดยการร้องไห้ เด็กๆรู้สึกถึงความเครียดที่เกิดขึ้น และรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังปฏิเสธไม่ยอมรับเขา บางครั้งฉันและสามีก็มีปฏิกิริยาโมโหโทโสต่อสิ่งที่ทำให้เครียด…ทั้งหมดที่เป็นต้นเหตุ

เราจะรับมืออย่างไรในขณะที่เราต้องดูแลเรื่องในบ้าน บ่อยครั้งที่เราพบกับภาวะที่แสนดี หรือคริสเตียนที่เชื่อใหม่ที่ไม่สามารแบกภาระปัญหาร่วมกับเรา หลังจากที่เราปวดร้าวกับการที่เรื่องของเราถูกเอาไปพูดต่อแล้ว เราก็เรียนรู้ที่จะเก็บซ่อนเรื่องต่างๆไว้ในใจ และเรายังคงสามารถหยิบฉวยรอยยิ้มพิมพ์ใจเอาไว้บนใบหน้าให้คนอื่นๆเห็นอยู่เสมอ บางครั้งปัญหาก็คือความเย่อหยิ่ง มันเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดา เราไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าชีวิตของผู้นำก็มีปัญหาเหมือนกัน

สิ่งที่ช่วยแก้ไขความเครียดในชีวิตของฉันคือการที่ฉันมีเวลาเงียบๆเฝ้ากับพระเจ้าทุกวัน
นั่นเป็นข้อดีของความเครียด แต่หากมันมีมากชนิดในด้านลบมากเกินไป หรือเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานๆแล้ว มันก็จะเป็นสาเหตุที่เผาทำลายความสัมพันธ์ของเราและทำลายสุขภาพของเราด้วย นี่เป็นสิ่งที่เราต้องหลีกเลี่ยง แต่จะทำอย่างไรล่ะ?

ขอให้ฉันได้เล่าสิ่งที่ฉันกำลังเรียนรู้บางทีมันอาจช่วยได้บ้าง สิ่งแรกว่ามันง่ายดายใช่ไหม? แต่ตามความเป็นจริงแล้ว มันเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ยาวนานตลอดชีวิตทีเดียวสำหรับการที่จะเรียนรู้ของแต่ละคน จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และกลายเป็นอีกคนหนึ่งทีเดียว หากคุณพบฉันเมื่อยี่สิบสามปีที่แล้ว เมื่อมาถึงเมืองไทยใหม่ๆ คุณจะจำไม่ได้เลยว่าคือฉันวันนี้ ฉันได้เปลี่ยนแปลงไปมากและคุณก็เช่นกัน เมื่อฉันเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงที่ฉันต้องพบ สิ่งที่ทำให้ฉันต้องเดือดร้อนมากที่สุดคือ กำลังของฉันมีแค่ไหน ความสามารถมีอะไรบ้าง ฉันมีความสามารถอะไรที่จะจัดการกับภาระกิจในบ้านและชีวิตที่ปราศจากความยุ่งยากไหม ฉันจะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างไร หากฉันไม่รู้จักตัวเอง คนอื่นก็มีอิสระที่จะมาบงการฉันว่าฉันควรจะทำอะไร ฉันควรจะแต่งตัวอะไร และอีกจิปาถะ ฉันก็อาจจะเป็นเหมือนหุ่นกระบอก และพิศวงว่าทำไมฉันจึงไม่ชอบตัวเองหรือไม่ชอบคนอื่นๆ
ในการที่จะพักผ่อนคลายความเครียด ฉันต้องการเพื่อนที่ซื่อสัตย์สักคน มันไม่ง่ายเลย ฉันรู้ว่ามีเพื่อนมาก แต่ฉันหมายถึง เพื่อนแท้ที่จะภักดีต่อคุณอย่างจริงจัง และเป็นผู้ใหญ่พอที่จะพูดตักเตือนและบอกเมื่อเราทำผิดอย่างถูกกาละเทศะ ซึ่งการกระทำอย่างนี้ได้ต้องเกิดจากความผูกพันอย่างแท้จริง (แม้ว่า จะทำด้วยความรักและ ความสุภาพ) เพื่อนแบบนี้หายาก การมีเพื่อนสักคนที่ฉันสามารถพูดคุยแบบเปิดใจและบอกถึงความใฝ่ฝันและระบายความเครียดที่มีอยู่ได้ เราส่วนมากต้องการใครสักคนที่ฉลาดและรอบคอบ และยอมรับฟังสิ่งที่เราระบายออกมาจากใจ เราต้องการใครสักคนในชีวิตของเราที่ฟังเราแล้วไม่ตำหนิ ไม่ลงโทษตามความรู้สึกของเรา คุณไม่มีเพื่อนแบบนี้เลยหรือ? ทูลขอจากพระเจ้าสิ พระองค์ผู้ซึ่งประทานล้วนแต่สิ่งที่ดี หากคุณปรารถนาที่จะให้ความผูกพันเช่นเดียวกันนี้กับผู้อื่น คุณก็พร้อมแล้วที่จะรับเธอเข้ามาในชีวิตของคุณ เพื่อนแท้ที่จะภักดีต่อคุณอย่างจริงจังและเป็นผู้ใหญ่พอที่จะพูดตักเตือนและบอกเมื่อเราทำผิดอย่งถูกกาละเทศะ ซึ่งการกระทำอย่างนี้ได้ต้องเกิดจากความผูกพันอย่างแท้จริง (แม้ว่า จะทำด้วยความรักและความสุภาพ) เพื่อนแบบนี้หายาก การมีเพื่อนสักคนที่ฉันสามารถพูดคุยแบบเปิดใจและบอกถึงความใฝ่ฝันและระบายความเครียดที่มีอยู่ได้ เราส่วนมากต้องการใครสักคนที่ฉลาดและรอบคอบและยอมรับฟังสิ่งที่เราระบายออกมาจากใจ เราต้องการใครสักคนในชีวิตของเราที่ฟังเราแล้วไม่ตำหนิ ไม่ลงโทษตามความรู้สึกของเรา คุณไม่มีเพื่อนแบบนี้เลยหรือ? ทูลขอจากพระเจ้าสิ พระองค์ผู้ซึ่งประทานล้วนแต่สิ่งที่ดี หากคุณปรารถนาที่จะให้ความผูพันเช่นเดียวกันนี้กับผู้อื่น คุณก็พร้อมแล้วที่จะรับเธอเข้ามาในชีวิตของคุณ สิ่งที่ช่วยแก้ไขความเครียดในชีวิตของฉันคือการที่ฉันมีเวลาเงียบๆเฝ้ากับพระเจ้าทุกวัน

หน้ากากเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดได้มากที่สุด…และมันหนักมากจริงๆ
นี่ไงที่ฉันได้ยินเสียงพระองค์ตรัส มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเฝ้าพระเจ้าประจำวัน ฉันรู้ คุณกำลังคิดว่าไม่มีเวลา (ใช่ คุณไม่มีเวลาจริงๆ แต่คุณจะต้องจัดเวลาและรายการไว้ให้เหมือนกับมันเป็นนัดสำคัญยิ่งของคุณอีกนัดหนึ่งของคุณด้วย) หรือว่ามันเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย หรือว่าการจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เห็นแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นการฝึกวินัยชีวิตตัวเองไม่ง่ายเลย แต่มันสำคัญอย่างยิ่งต่อสันติสุขของคุณ ฉันยังมีวันที่จะพบเหตุการณ์ที่ดูเหมือนอะไรๆผิดพลาดไปหมด และทำให้ฉันเครียดและเหนื่อยและท้อแท้ แต่ฉันไมรู้สึกว่าถูกตำหนิกับเวลาเหล่านั้นเลย ฉันเรียนรู้ร่วมกับพัชราในวันนั้นเมื่อหลายปีมาแล้ว ที่ห้องรับแขกของฉัน

ฉันจำได้ว่าฉันพูดกับพัชราว่า “พัชราฉันอยากอธิษฐาน ความจริงฉันกำลังเจอวันที่แย่จริงๆ อธิษฐานเผื่อฉันซิแล้วฉันอธิษฐานเผื่อเธอ”

ฉันร้องไห้เพราะฉันรู้สึกถึงการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าในห้องรับแขกนั้น “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ยังเสด็จมาเยี่ยมบ้านที่มีความสัมพันธ์ไม่เรียบร้อยอย่างนั้นหรือ? ที่สุนัขกัดลูกของข้าพเจ้า เด็กๆเสียงดังลั่น คุณแม่เกรี้ยวกราด อย่างนั้นหรือ?” ฉันได้พบว่า พระองค์มิได้ตกอกตกใจต่อสภาพที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์เลย พระองค์ทรงรักเรามาก เมื่อเราเอาหน้ากากของเราออกแล้วเป็นตัวของเราเอง นั่นเป็นการผ่อนคลาย หน้ากากเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดได้มากที่สุดและมันหนักมากจริงๆ

ข้อมูลจากฝ่าย ประชาสัมพันธ์ วันที่ 19/02/2001