การเฝ้าเดี่ยว เปรียบเหมือนการใช้เวลากับคนรัก เปรียบเหมือนการโทรศัพท์คุยกับเพื่อนสนิท หรืออาจจะเปรียบกับการเข้าเฝ้ากษัตริย์ แม้เรามีจิตใจอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้เกิดผลมากควรเรียนรู้การใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ ดังต่อไปนี้
ข้อแนะนำในการเฝ้าเดี่ยว
1. เวลา กำหนดเวลาที่แน่นอนให้ตนเอง พระเยซูคริสต์เฝ้าเดี่ยวตอนเช้าตรู่ (มาระโก 1: 35 ,สดุดี 119: 147 ) ,ดาเนียลคุกเข่าลงวันละ 3 เวลา (ดนล. 6 :10 ) ,กษํตริย์ดาวิด เข้าเฝ้ากลางคืน ก่อนนอน (สดุดี 119: 147 ) ,เปโตรอธิษฐานตอนเที่ยงวัน (กิจการ 10 : 9 ) หรือเวลาที่เงียบสงบสำหรับเรา แต่เราควรกำหนดแน่นอน และควรเลือกเวลาที่เราสดชื่น
2. ที่เปลี่ยว (มาระโก 1: 35 ) ,บนที่นอน (สดุดี 63 : 6),อยู่ตามลำพัง (ลูกา 9 : 18 ) บนภูเขา (ลูกา 21: 37 ),ริมฝั่งแม่น้ำ (กิจการ 16: 13 ) บนหลังคาตึก (กจ.10 ) ที่ใดก็ได้ที่เป็นมุมสงบสำหรับเรา บางคนอยู่ในบ้านที่มีคนพลุกพล่าน เราอาจต้องใช้เวลาที่คนอื่นพักผ่อน และอาจต้องใช้เตียงนอนของตนเอง
3. การใช้เวลานานแค่ไหน ความจริงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่า เราควรใช้เวลานานแค่ไหน 20 นาที ,ครึ่งชั่วโมง ,1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น เนื่องจากการเฝ้าเดี่ยว เราต้องมีเวลาอ่านพระคัมภีร์ด้วย จึงเห็นว่า 10 -2 0 นาที จะน้อยเกินไป อย่างไรก็ตาม เราควรกำหนดเวลาไว้ว่าจะใช้เวลาแต่ละวันนานแค่ไหน บางคนแบ่งเวลาเฝ้าเดี่ยวอกเป็น 2 ครั้ง คือ ตอนเช้า และก่อนนอน ถ้าเช่นนั้นก็ควรกำหนดเวลาให้แน่นอนไว้ทั้ง 2 ครั้ง การกำหนดเวลาแน่นอน เป็นการบังคับตัวเอง และสร้างนิสัยให้ตัวเราด้วย หลายคนใช้เวลา 1 ช.ม.เป็นจุดเริ่มต้น เพราะ มธ. 26: 40 พระเยซูคริสต์ตรัสกับเปโตรว่า “เป็นอย่างไรน่ะ ท่านทั้งหลายจงคอยเฝ้าระวังอยู่กับเราสักทุ่มเดียว (1 ช.ม.) ไม่ได้หรือ จงเฝ้าระวัง และอธิษฐาน เพื่อท่านจะไม่ต้องถูกทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง
4. เราใช้อะไรบ้างเมื่อเฝ้าเดี่ยว
ในการเฝ้าเดี่ยวควรมี พระคัมภีร์ คู่มือเฝ้าพระเจ้าประจำวัน และสมุดบันทึก เพื่อช่วยให้เราอยู่กับพระเจ้าในมุมสงบ
4.1 พระคัมภีร์ เราควรมีพระคัมภีร์อยู่กับเรา เมื่อเข้าเฝ้าพระเจ้า เพราะนอกจากเราอธิษฐานกราบทูลพระองค์แล้ว เราควรมีเวลารับฟังพระเจ้า การฟังพระสุรเสียงอย่างหนึ่ง คือ ให้พระเจ้าตรัสกับเราทางพระคัมภีร์
4.2 คู่มือเข้าเฝ้าพระเจ้าประจำวัน จะเป็นแนวทางเบื้องต้น ผู้เชื่อใหม่ควรเริ่มด้วยการใช้คู่มือ
4.3 สมุดบันทึก หาสมุดบันทึกส่วนตัวสักเล่ม ก่อนเริ่มเฝ้าเดี่ยวให้เขียน วันที่ เดือน ปี และเวลาที่มุมกระดาษ แล้วบันทึกสิ่งที่พระเจ้าตรัสสอน หรือพระคำควรจำ ที่เราเรียนรู้และเฝ้าเดี่ยว เรื่องที่เราทูลขอ และสิ่งที่เราขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานอย่างย่อ ๆ สมุดบันทึกเป็นของส่วนตัวจริงๆ ทั้ง 3 เล่มนี้ จะช่วยเราในในการใช้เวลาเข้าเฝ้า อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า ถ้าเราไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้ว เราจะเฝ้าเดี่ยวไม่ได้ เมื่อพระเยซูอธิษฐานแต่ลำพังบนภูเขา พระองค์ไม่มีสมุด หนังสือใด ๆ อย่าลืมว่าการเฝ้าเดี่ยวเป็นเวลาแห่งการพบกับพระเจ้า หน้าต่อหน้า ความสนใจของเราอยู่ที่พระเจ้า ไม่ใช่สิ่งเหล่านี้
5. เราจะแบ่งเวลาอย่างไรเมื่อเฝ้าเดี่ยว
5.1 สำรวจดูจิตใจตนเอง ถ้ามีอะไรที่ไม่ถูกต้อง เราควรสารภาพต่อพระเจ้า เพื่อเราจะมีจิตใจกล้าเข้าเฝ้าพระองค็ต่อไป (1 ย.น. 1: 9 )
5.2 สรรเสริญและขอบพระคุณ คิดถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงโปรดประทานแก่เรา เฉพาะเจาะจง และเป็นเรื่องจริง พิจารณาความรอดที่ประทานให้ อาหาร เสื้อผ้า ,แสงแดด, ที่อยู่อาศัย ,เพื่อน ฯลน และขอบพระคุณ (อฟ. 5; 19 ,20 ,1 ทส.5: 16 )
สรรเสริญพระลักาณะของพระเจ้า (สดุดี 22: 3 ) ความสัตย์ซื่อ ,ความบริสุทธิ์ ,ความประเสริฐ
รับฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าโดยการอ่านพระคัมภีร์ และสงบใจฟังพระองค์ (สดุดี 62: 3 ,(สดุดี 1: 1 ,2) การเข้าเฝ้าพระเจ้าต้องมีเวลาให้พระองค์ตรัสกับเราบ่อยครั้ง หลังจากการอ่านพระคัมภีร์ พระองค์ทรงนำความคิดของเราให้เข้าใจพระทัยของพระองค์ ซึ่งเราควรจดบันทึนสิ่งเหล่านี้เอาไว้ บางครั้งพระองค์อาจจะนำเราระลึกถึงคนบางคน, บางเรื่อง เพื่อเราจะได้อธิษบานเผื่อ บางครั้งพระองค์ประทานความคิดใหม่ในการสร้างสรรการงานของพระองค์
5.4 การอธิษฐานทูลขอ ไม่เพียงเพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อคนอื่น ๆ เช่น ญาติของเราที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า เผื่อปัญหาที่กำลังเผชิญ ,เผื่อครอบครัว ,เผื่อผู้รับใข้ ,การอธิษฐานทูลขอควรเฉพาะเจาะจงระบุไปว่า เราขออะไรแน่นอน (รม.1: 9,มก.10: 31 )
5.5 อธิษฐานในพระนามพระเยซู และขอบพระคุณโดยความเชื่อ
จบคำอธิษฐานด้วยการกล่าวว่า ” อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน ” เป็นการสรุปว่าทุกสิ่งที่ทูลขอนั้น โดยผ่านทางพระเยซู พระบิดาทรงสัญญาตอบเราเมื่อเราอาสัย พระนามพระเยซู ด้วยความศรัทธา และจริงใจ (ยน.14 :14 ,15 ,16 )คำว่า “อาเมน” แปลว่า ” ขอให้เป็นไปดังนั้น ”
ท่าทีของเราสำคัญมาก เราควรจบลงด้วยท่าทีแห่งการพึ่งพระเจ้า จดจ่อทีพระองค์ และด้วยท่าทีของพระคุณฯพระเจ้าล่วงหน้าสำหรับคำตอบที่เราจะได้รับ แม้ว่าในขณะนั้นอาจจะยังมองไม่เห็นด้วยตาฝ่ายเนื้อหนังก็ตาม
บทความโดย ศจ. สมเกียรติ กิตติพงษ์