“พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่ศรัทธาในพระองค์แล้วว่า”ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง..และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท”(ยอห์น8:31-32)
ในพระธรรมตอนนี้ พระเยซูได้บอกให้เราทราบถึงวิธีที่เราจะเอาชนะการหลอกลวงของมาร คือเราตัองรับเอาความรู้ถึงสัจจะของพระเจ้าเข้าสู่ตัวเรา และเปลี่ยนความคิดของเราเสียใหม่ด้วยพระวจนะของพระองค์ จากนั้นก็ใช้ศาสตราวุธใน 2 โครินธ์ 10:4-5 “อาวุธที่เราใช้ต่อสู้ไม่ใช่อาวุธของโลก แต่เป็นอาวุธที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าสามารถทำลายล้างที่มั่นต่างๆได้..เราทำลายล้างประเด็นโต้แย้งและคำแอบอ้างทั้งปวงที่ตั้งตัวขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และเราสยบทุกความคิดให้ยอมจำนนเชือฟังพระคริสต์”…..ศาสตราวุธเหล่านี้ก็คือพระวจนะที่เราได้รับผ่านทางการเทศนา การสั่งสอน หนังสือ เทป การสัมนาและการศึกษาพระคัมภีร์ส่วนตัวนั่นเอง แต่เราจำเป็นต้องดำรงในพระวจนะ จนกระทั่งมันกลายเป็นการสำแดงที่เกิดจากการดลใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การดำรงอยู่ในพระวจนะนี้เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง
ในพระธรรมมาระโก 4:24 “พระเยซูตรัสว่า”จงเอาใจจดจ่อต่อสิ่งที่ฟังให้ดี ท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด จะทรงตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น ทั้งจะทรงเพิ่มเติมให้อีก”…. ขอย้ำว่า เราจะต้องใช้ศาสตราวุธแห่งพระวจนะอยู่เสมอไป ศาสตราวุธฝ่ายวิญญาณอีกสองประการที่พร้อมจะให้เราใช้ด้วย คือ การสรรเสริญและการอธิษฐาน การสรรเสริญสามารถทำให้มารพ่ายแพ้ได้รวดเร็วยิ่งกว่ากลยุทธอื่นใดทั้งสิ้น แต่จะต้องเป็นการสรรเสริญที่ออกมาจากใจจริง ไม่ใช่แค่ริมฝีปากหรือเป็นเพียงแค่ลองดูว่าจะได้ผลหรือเปล่า นอกจากนี้การสรรเสริญ และการอธิษฐานต่างก็เกี่ยวข้องกับพระวจนะ การสรรเสริญพระเจ้าตามที่พระวจนะของพระองค์กล่าวไว้ และเพราะพระคุณความดีของพระองค์ การอธิษฐานคือ การมีสัมพันธ์กับพระเจ้า เป็นการเข้ามาทูลขอรับความช่วยเหลือ หรือสนทนากับพระเจ้าถึงสิ่งต่างๆที่รบกวนจิตใจของเราอยู่
หากเราต้องการมีชีวิตด้านการอธิษฐานที่เกิดผล
– เราก็ต้องพัฒนาความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระบิดาให้ดี
– เราต้องรับรู้ว่าพระองค์ทรงรักเรา พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา และพระองค์ทรงช่วยเหลือเรา
– เราต้องทำความรู้จักกับพระเยซู พระองค์ทรงเป็นสหายเลิศ ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา
– เราต้องทำความรู้จักกับองค์พระวิญญาณ พระองค์ทรงสถิตกับเราอยู่ตลอดเวลาในฐานะพระผู้ช่วย จงยอมให้พระองค์ทรงช่วยเหลือ จงเรียนรู้ที่จะใช้พระวจนะของพระเจ้าในการอธิษฐาน
เราเข้ามาเฝ้าพระเจ้าเพราะพระวจนะของพระเจ้า และเพราะเรามีปัญหาในชีวิตเรา ดังนั้นศาสตราวุธของเราก็คือพระวจนะ ซึ่งใช้ออกไปในสถานการณ์ต่างๆ ศาสตราวุธของเรานั้นไม่ได้เป็นฝ่ายโลกีย์วิสัย แต่เป็นฝ่ายวิญญาณ เราต้องการศาสตราวุธฝ่ายวิญญาณ เพราะว่าเรากำลังต่อสู้กับวิญญาณชั้นหัวหน้า หรือแม้กระทั่งมารซาตานเอง แม้แต่องค์พระเยซูก็ยังทรงใช้ศาสตราวุธแห่งพระวจนะเพื่อเอาชนะมาร ในขณะที่ทรงอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ทุกครั้งที่มารมุสาต่อพระองค์ พระเยซูก็ตอบว่า “มีคำเขียนไว้แล้วว่า”และอ้างพระวจนะตอบโต้กับมาร
บทความโดย คุณพลพล