ข้าพเจ้า ศจ.ผกามาศ เมธีอัครกุล ศิษยาภิบาลศูนย์คริสเตียนพิมาย เขียนคำพยานทั้งหมดนี้ ขอถวายพระเกียรติทั้งสิ้นเหล่านี้แด่พระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย และยังพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเดียวผู้สมควรแก่การสรรเสริญ ขอยกย่องและนมัสการพระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อ และทรงเป็นจอมราชานิรันดร์

ศูนย์คริสเตียนพิมายตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลพิมาย ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมามีพี่น้องคริสเตียนอาศัยอยู่ที่พัทยา และชลบุรี กลับมาเยี่ยมบ้านเดิมซึ่งอยู่ที่บ้านวังหิน ต.ในเมือง อ.พิมาย ห่างไกลจากเทศบาลตำบลพิมายประมาณ 4 กิโลเมตร พี่น้องถวายบ้านพร้อมที่ดินให้คริสตจักรใช้เพื่อการนมัสการพระเจ้าเป็นเวลา 10 ปีโดยไม่มีค่าเช่าแต่ให้คริสตจักรปรับปรุงสถานที่เอง บรรดาสมาชิกของคริสตจักรร่วมกันปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ในวันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2009 คุณภาวัต (เมธา) เมธีอัครกุล ทำงานอยู่กับองค์การกีเดี้ยน เป็นผู้อำนวยการภาคอีสาน (เป็นพี่ชายของข้าพเจ้า เป็นน้องชายศจ.ภูมิวเนตร และศจ.ธีรศักดิ์ เมธีอัครกุล) แวะเข้าไปเยี่ยมข้าพเจ้าที่คริสตจักรใหม่ อ.พิมาย ข้าพเจ้าได้ขอให้พี่เมธาทำไฟฟ้าห้องน้ำให้ใช้ได้เพียงจุดเดียว แต่อาจจะเเพราะความเหน็ดเหนื่อยทางร่างกายจึงขาดความรอบคอบที่จะตัดคัดเอ๊าท์ลง ขณะกำลังทำไฟอยู่ก็ถูกกระแสไฟฟ้าช๊อต ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 15.45 น. เวลาชีพจรหยุดเต้นและไม่รู้สึกตัวแล้ว พี่น้องที่กำลังปรับปรุงคริสตจักรอยู่ในบริเวณนั้นร่วมกัน 9 คน พยายามช่วยชีวิตด้วยการผายปอด และเป่าปาก แต่พี่เมธาก็ไม่ฟื้น ผ่านไปประมาณ 15-20 นาทีจึงรีบช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลพิมาย (อยู่ห่างจากคริสตจักรประมาณ 6-7 กิโลเมตร) เข้าไปในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล

หมอพยายามปั้มหัวใจให้ชีพจรเต้น 3 ครั้งแต่ละครั้งปั้มประมาณ 10-15 นาที ข้าพเจ้าต้องรอข้างนอกห้องเพราะหมอไม่ให้เข้าไปในห้องฉุกเฉิน เวลานั้นข้าพเจ้าทำอะไรไม่ได้จึงชวนพี่น้องอีก 4 คนที่มาด้วยกันร่วมกันอธิษฐาน เราร่วมใจกันอธิษฐานสารภาพบาปของพี่เมธาต่อพระเจ้า และขอพระเมตตาจากพระเจ้า เวลาผ่านไปนานพอสมควร หมอเรียกข้าพเจ้าเข้าไปในห้องฉุกเฉินหมอบอกข้าพเจ้าว่า “หมอปั้มหัวใจคนไข้ 3 ครั้งแล้ว ชีพจรเขามาแล้วก็กลับไปไม่อยู่ หมอไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไร จะลองปั๊มอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งสุดท้ายถ้าเขามาและอยู่ก็รอด แต่ขอให้ญาติทำใจ”

ข้าพเจ้าตอบหมอว่า “เขาจะไม่ตาย เขาจะเป็นอยู่ เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เอาเลยหมออีกครั้งหนึ่ง” ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังอธิษฐานกับ อ.ธีรศักดิ์ และเมื่อหมอเรียกไปที่ห้องฉุกเฉินข้าพเจ้าคุยกับ อ.ธีรศักดิ์ให้สั่งพี่เมธาลุกขึ้นในพระนามพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้ายืนข้างเตียงพี่เมธา และเอาโทรศัพท์เปิดลำโพงเสียงดังวางแนบหูของพี่เมธา พวกเราก็ร่วมเป็นใจเดียวกันอธิษฐานเผื่อพี่เมธา ผ่านไปพอสมควรชีพจรที่ปั้มก็กลับมา ผู้ช่วยพยาบาลซึ่งเป็นผู้เชื่อในพิมายเป็นผู้บีบออกซิเจนก็พูดว่า “มาแล้ว มาแล้ว ขอบคุณพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์ จงมีชีวิต” ตาของพี่เมธาก็ลืมขึ้นมาและมองมาที่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงพูดชีวิตเข้าไปในชีวิตของเขา ขอบคุณพระเจ้าพี่เมธาเริ่มมีชีวิต ชีพจรมาแล้ว ฮาเลลูยา ระยะเวลาห่างกันตั้งแต่ถูกไฟฟ้าช๊อตถึงชีพจรเริ่มเต้นประมาณ 1 ชั่วโมง 20-30 นาที ขอบคุณพระเจ้า ขอพระเกียรติเป็นของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

หลังจากนั้น หมอก็ส่งตัวพี่เมธาไปรพ.มหาราชในอ.เมือง นครราชสีมา ข้าพเจ้าขับรถตามไปที่ รพ.มหาราช พี่น้องจากพิมายตามไปอีก 10 คน หมอใน รพ.มหาราชตรวจที่ห้องฉุกเฉินเสร็จก็ส่งไปที่ชั้นอายุรกรรมชาย แท้จริงควรเข้าไอซียู ข้าพเจ้าถามห้องไอซียูเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ว่าง คนไข้เต็มหมด พี่น้องที่ไปด้วยกับข้าพเจ้าเสนอว่าไม่ควรไว้ที่ รพ.มหาราชควรย้ายไป รพ.เอกชน เนื่องจากที่ห้องอายุรกรรมชายไม่มีเครื่องช่วยหายใจ มีเพียงออกซิเจนตัวเดียว และไม่มีอุปกรณ์เครื่องช่วยชีวิตที่เพียงพอต่อคนไข้ จึงไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ ที่สุดข้าพเจ้าตัดสินใจติดต่อ รพ.เซ็นต์แมรี่ นครราชสีมา มารับตัวไปรักษาต่อที่ รพ.เซ็นต์แมรี่ ทาง รพ.ตรวจเช็คเอ็กซเรย์และบอกข้าพเจ้าว่า ปอดและกล้ามเนื้อหลายแห่งรวมทั้งกล้ามเนื้อหัวใจถูกไฟฟ้าช๊อต ภายในของเขาอักเสบมาก จึงส่งตัวเข้าห้องไอซียู ใช้เครื่องช่วยหายใจ และออกซิเจน เครื่องตรวจคลื่นหัวใจ เครื่องวัดออกซิเจนในร่างกาย ให้น้ำเกลือและยาต่าง ๆ ข้าพเจ้าสังเกตว่า พี่เมธามีอาการดีขึ้นเรื่อยทุก ๆ ชั่วโมง เนื่องจากไอซียูให้เยี่ยมได้เพียง 2 ครั้งต่อวันเท่านั้น ( คือ 11.00-12.00 และ 18.00-19.00 น. )

ขอบคุณพระเจ้าอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ ก็สามารถรู้ว่าใครมาเยี่ยมบ้างรับรู้ได้ แต่ตอบโต้ไม่ได้มาก วันรุ่งขึ้นเสาร์ที่ 21 ก็สามารถเขียนตอบได้ทุกอย่าง แต่ยังจำอะไรได้สั้น ๆ เท่านั้น ดีขึ้น ๆ ออกซิเจนในร่างกายดีขึ้นและกลับสู่สภาพปกติ ความดันกลับสู่สภาพปกติ การเต้นของหัวใจดีขึ้นจนกระทั่งกลับสู่ปกติ วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ หมอก็ให้ออกจากห้องไอซียูไปอยู่ห้องธรรมดา รับประทานอาหารมื้อเที่ยงเป็นมื้อแรก ต่อมาวันรุ่งขึ้นพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ หมอก็ถอดสายทุกอย่างออกหมดเดินเข้าห้องน้ำช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งแต่ตอนเช้า และอยู่ห้องธรรมดา 3 คืน เช้าวันศุกร์ที่ 27 กพ.หมอก็อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อ ขอบคุณพระเจ้า ฮาเลลูยา สรรเสริญพระเจ้ายิ่งใหญ่ ในสดุดี 126 เมื่อพระเจ้าทรงกระทำให้ศิโยนกลับสู่สภาพดี เราก็เป็นเหมือนคนที่ฝันไป ปากของเราหัวเราะเต็มที่ และลิ้นของเราก็เปล่งเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบาน แล้วเขาพูดกันท่ามกลางประชาชาติว่า “พระเจ้าทรงกระทำการมโหฬารให้เขา พระเจ้าทรงกระทำการมโหฬารให้เรา เรามีความยินดี…”

ต่อมาวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม หมอนัดตรวจและทำการเอ็กซเรย์อีกครั้งหนึ่งและเทียบกับฟิมล์เอ็กซเรย์ก่อนหน้านี้ หมอบอกว่า ปอดและหัวใจกลับสู่สภาพปกติแล้ว แต่ยังมีอาการไอเกิดจากหน้าอกฟกช้ำเนื่องจากการปั๊มหัวใจ อาการนี้จะค่อย ๆ หายเอง ขอบคุณพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นแพทย์ผู้ประเสริฐ

พระเจ้าทรงกระทำมากยิ่งกว่าที่เราทูลขอหรือคิดได้ เรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้รพ.เซ็นต์แมรี่ เป็นเงินจำนวนมากเกินกำลังของเรา ประกันอุบัติเหตุหมดอายุต่อไม่ทันไม่สามารถช่วยได้ อย่างไรก็ตามพระเจ้าส่งการช่วยเหลือผ่านทางอธิการของ รพ.เซ็นต์แมรี่ที่ให้ความอนุเคราะห์กับบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ให้ส่วนลดเป็นพิเศษ และยังมีบรรดาธรรมิกชนของพระเจ้าส่งการช่วยเหลือมาทันในวันที่หมออนุญาตให้ออกจากรพ. และมีเพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นทั้งหมดอย่างอัศจรรย์ ขอบคุณพระเจ้าผู้ทรงนำการช่วยกู้มาเหนือผู้รับใช้ของพระเจ้า

ท้ายที่สุดนี้ ข้าพเจ้าขอขอบคุณในการสนับสนุนของท่านไม่ว่าจะเป็นคำอธิษฐานเผื่อคุณเมธาอย่างเอาจริงเอาจัง บางคนอดอาหารอธิษฐานร่วมกัน และหลายคริสตจักรทั้งคริสตจักรได้ร่วมใจกันอธิษฐานเผื่อ บางคนถวายเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรับการรักษา บางคนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล บางคนโทรศัพท์มาถามความคืบหน้าและหนุนใจด้วยพระวจนะของพระเจ้า ข้าพเจ้าประทับใจในการมีส่วนร่วมสนับสนุนของท่าน ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย ขอพระเจ้าอวยพระพรท่าน ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงมาเหนือท่านและประทานสวัสดิภาพแก่ท่านและครัวเรือนของท่าน รวมทั้งการงานที่ท่านรับใช้พระองค์อยู่ให้เกิดผลทวีคูณ

ปัจจุบันพี่เมธาพักฟื้นที่คริสตจักรธารพระพร นครราชสีมาชั่วคราวเมื่อแข็งแรงแล้วก็คงจะกลับไปพักที่บ้านต่อไป ข้าพเจ้าอธิษฐานและเชื่อมั่นว่าเมื่อท่านอ่านคำพยานนี้จะเป็นประโยชน์ฝ่ายวิญญาณและหนุนใจท่านให้ก้าวหน้าต่อไปกับพระเจ้าในความเชื่อ ในความหวังใจ และความรักในพระเยซูคริสต์พระเจ้าของเรา อาเมน
ขอพระเกียรติ และพระสิริเป็นของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวตลอดไปเป็นนิตย์และเป็นนิตย์ อาเมน และอาเมน

ด้วยความรักในพระเยซูคริสต์

ศาสนาจารย์ผกามาศ เมธีอัครกุล
ศิษยาภิบาลศูนย์คริสเตียนพิมาย นครราชสีมา
บันทึกวันที่ 20 มีค.09