เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มีนาคมของแต่ละปี เป็นวันสำคัญยิ่งสำหรับดิฉัน ที่ไม่อาจลืมได้ชั่วชีวิตเลยทีเดียว เพราะเป็นวันที่พระเจ้าได้ทรงช่วยชีวิตของดิฉันให้รอดพ้นจากความตาย พระองค์ทรงอยู่กับดิฉันในหุบเขาเงามัจจุราชจริงๆ

เรื่องมีอยู่ว่าในเช้าวันนั้น สามีดิฉันอาสาจะไปจ่ายตลาด ดิฉันก็ได้เวลาย้อมผม ซึ่งไม่เคยคิดว่าจะเกิดอาการแพ้เลย พอย้อมไปไม่กี่นาที รู้สึกคันๆก็ไม่คิดอะไร แต่พอสามีกลับมาก็มองหน้าแล้วทักว่าเป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมหน้าเป็นผื่นแดง ดิฉันตอบว่าไม่รู้สึกหรือว่าแพ้ยาย้อมผม … สามีจึงไปที่ร้านขายยาเพื่อขอซื้อยาแก้แพ้มาให้ แต่ยาต้องกินหลังอาหาร ดิฉันจึงเตรียมอาหารและยาไปที่โต๊ะอาหาร ขณะที่ตักข้าวใส่ปากไม่ทันจะกลืนก็รู้สึกจุกอยู่ตรงคอกลืนไม่ลงและหายใจลำบาก จึงเดินไปคายอาหารทิ้งแล้วเดินกลับมา รู้สึกหมดแรงเดินไม่ไหวทรุดตัวลงตรงนั้นเลย สามีจึงเข้ามาประคองพาไปนั่ง แล้วพาไปคลินิก จากนั้นดิฉันก็ไม่รู้สึกตัว
สามีได้เล่าให้ดิฉันฟังหลังจากที่ดิฉันรู้ตัวว่า หมอหาเส้นเพื่อให้น้ำเกลือยากมาก เพราะเส้นฝ่อหมด เขาได้แต่อธิษฐานขอพระเจ้าช่วยอย่างเดียว ในที่สุดหมอก็หาพบ และให้น้ำเกลือและฉีดยาอีก 1 เข็ม ดิฉันพยายามลืมตาก็ไม่ขึ้น เพราะตั้งแต่ใบหน้าตลอดทั้งตัวบวมไปหมด รู้สึกตัวอีกทีน้ำเกลือจะหมดขวดแล้ว หมอเล่าให้ฟังว่า ดิฉันมีอาการหนาวสั่นมากจนฟันกระทบกัน ต้องใช้ผ้าห่มถึง 3 ผืน

ในเวลานั้นดิฉันมีความรู้สึกว่า กำลังจะก้าวเข้าไปสู่ประตูความตาย ได้แต่อธิษฐานว่า ขอพระเจ้าอย่าได้ลืมข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงรับข้าพระองค์ไปอยู่กับพระองค์ในขณะที่ข้าพระองค์ยังมีความเชื่ออยู่นี้ด้วยเถิด ใจก็เกิดความสุขมากและตื่นเต้นที่ได้ไปอยู่กับพระเจ้า แต่แล้วดิฉันรู้สึกมีเครื่องอะไรหนัก ๆ ทับตัวแล้วก็ยกสูงขึ้น และปล่อยลงมาจึงทำให้รู้สึกว่าตัวกระตุกๆ เป็นระยะๆ หลังจากนั้นแขนและขาก็เริ่มขยับได้ อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหายเป็นปกติ คุณหมองงแทบไม่เชื่อตา แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่าเพราะพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์เท่านั้น ที่ทรงช่วยดิฉันให้ผ่านพ้นประตูแห่งความตายในครั้งนี้ ดิฉันและครอบครัวจึงขอบคุณพระเจ้าและขอรับใช้พระองค์ตลอดไปค่ะ

คุณเล็ก แสงเดือน