วันหนึ่งขณะที่คุณแม่เสริมพรกำลังนั่งอธิษฐานกับพระเจ้า พระวิญญาณของพระองค์ทรงตรัสในใจว่า จงไปเยี่ยมคนป่วยหนักที่โรงพยาบาลจุฬา เขาชื่อโพธิ์ ศาสตร์เวช คุณแม่เสริมพรได้เล่าว่า

“ดิฉันตื่นเต้นมาก และแน่ใจว่าต้องมีคนป่วยชื่อนี้ จึงชวนกลุ่มสตรีที่โบสถ์ไปด้วย เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็ถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เขาก็ให้ความช่วยเหลืออย่างดี อัศจรรย์จริงๆ มีคนชื่อนี้อยู่ที่นี่จริงๆ”

เมื่อได้ชื่อและได้ทราบหมายเลขห้อง ก็รีบไปยังตึกพักของผู้ป่วยทันที ก็เห็นชายผู้นี้ชื่อโพธิ์ ศาสตร์เวช นอนอยู่บนเตียง กำลังใส่น้ำเกลือ หน้าตาซีดเซียวและตัวเหลืองมาก ร่างกายผ่ายผอม ดิฉันรู้สึกสงสารจับใจ และคิดถึงความรักของพระเจ้า ที่พระองค์ทรงห่วงใยเราทุกคน แม้คนเจ็บหนักที่หมอหมดหนทางเยียวยารักษา แต่พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้ง

ดิฉันเดินเข้าไปหาเขาและแนะนำตนเอง แล้วก็เล่าให้เขาฟังว่า พระเจ้าทรงนำดิฉันมาพบเขาได้อย่างไร เขาตื่นเต้นมาก เนื่องจากเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่พระเจ้าก็ทรงนำให้มารู้จักกัน ซึ่งเกินกว่าสติปัญญาของมนุษย์ที่จะเข้าใจได้ ดิฉันเริ่มเล่าเรื่องข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ และบอกเขาว่าในวันนี้แม้เขาจะเสียชีวิตลง แต่จิตวิญญาณของเขาจะรอดไปอยู่กับพระเจ้า ถ้าเขายอมรับเชื่อในพระเยซูคริสต์ เขาดีใจมากที่ได้ฟังเรื่องพระเจ้า

ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจอธิษฐานต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในใจด้วยความชื่นชมยินดี เขาบอกว่าเคยตั้งจิตอธิษฐานว่า หากพระเจ้ามีจริงขอให้ได้พบพระองค์ด้วยเถิด และวันนี้เขาก็ได้พบพระเจ้าและต้อนรับพระองค์แล้ว ดูหน้าตาสดชื่นขึ้นมากเลย พวกเราก็ลากลับ

2-3วันต่อมา ดิฉันก็กลับไปเยี่ยมเขาอีกที จึงทราบว่า เขาเป็นมะเร็งในถุงน้ำดี แต่ดิฉันสังเกตสีหน้าท่าทางและสุขภาพของเขาดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก ข้างๆเตียงมีภรรยาและพี่สาวนั่งอยู่ด้วย เธอเล่าให้ดิฉันฟังว่า ได้อธิษฐานขอให้น้องชายเขาหายและมีโอกาสพบพระเจ้าด้วย ดิฉันก็ได้เล่าเรื่องข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ให้ทั้งภรรยาและพี่สาวฟัง แล้วทั้งสองก็รับเชื่อพระเจ้าในที่สุด

ขอบคุณพระเจ้าและสรรเสริญพระองค์สำหรับพระกรุณาธิคุณ และความรักมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อคุณโพธิ์ และครอบครัวและมีต่อเราทุกคนด้วย

คุณโพธิ์ ศาสตร์เวช