พี่น้องจะทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ? ไม่ได้อยู่ในแผนการณ์ชีวิตของเราเลย ข้าพเจ้ามีประสบการณ์ที่ทำให้เข้าใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ว่ามันสาหัสขนาดไหนบ้าง
ในวันที่ 4 มกราคม ข้าพเจ้าเพิ่งรู้สึกว่าถอนหายใจได้เหือกใหญ่ที่เหนื่อยจากงานศพคุณยาย ก็เกิดเหตุการณ์ ท่อน้ำแตกในห้องที่คอนโดชั้น 7 ของข้าพเจ้า เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงครึ่งตอนเช้ากำลังหลับสบาย เพื่อนบ้านกระหน่ำเคาะห้องข้าพเจ้า น้ำไหลออกมาที่ทางเดิน มากมาย เมื่อข้าพเจ้าตกใจตื่น ลงจากเตียงก็ย่ำน้ำ หายง่วงเลย เมื่อได้รู้ว่า น้ำท่วมห้องเราเสียแล้ว !!!
พี่น้องลองนึกภาพดู ว่าเกิดเรื่องวันที่มหาวิทยาลัยเปิดเทอมพอดีเลย พวกอาจารย์พากันหัวหมุนเพราะงานเยอะไปหมด ข้าพเจ้ากลับต้องย้ายของเหมือนย้ายบ้าน
ข้าพเจ้าตกใจมาก ที่พบว่าน้ำท่วมห้องข้าพเจ้าทั้งห้อง มีแม่บ้านมาช่วยกันเช็ดทำความสะอาด ความรู้สึกข้าพเจ้าตอนนั้น มึน งง จนทำอะไรไม่ถูก แว๊ปแรกข้าพเจ้าพยายามรวบรวมสติ โอ พระองค์เจ้าข้า ขอบคุณพระเจ้าที่น้ำยังไม่เข้าปล๊กไฟ ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์ปลอดภัยดีไม่ได้เป็นอะไร แค่สติแตก แล้วก็ คิดได้ว่าช่างมันเถอะไม่เป็นไรหรอก ข้าวของนอกกาย เช่น กล้อง SLR สี่ห้าตัว ถึงแม้จะเป็นของรักของหวงที่สะสมมานาน ค่อย ๆ เก็บเงินก็หาใหม่ได้
แรกๆ ข้าพเจ้า คิดว่าไม่เป็นไรก็อยู่ไปแบบนี้หล่ะ มันเหนื่อยเกินไป ที่จะคิดทำพื้นห้องใหม่ แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปได้สักสองสามวัน พื้นก็เริ่มบวมมากขึ้นและห้องเริ่มมีกลิ่นอับชื้น ข้าพเจ้าเป็นนักจุลชีววิทยาเสียด้วย เลยยิ่งจินตนาการไปว่าจะมีเชื้อราสารพัดพิษ ในห้อง และมีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง จึงคิดว่าจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนพื้น ขอบคุณพระเจ้าที่เพื่อนบ้านห้องข้างๆ ยอมให้ข้าพเจ้าไปเช่าห้องอยู่และย้ายของ เมื่อประกันและช่างบิวอินมาดูความเสียหาย พบว่า ตู้ชุดครัวก็บวมน้ำต้องเปลี่ยนอีกด้วย งบประมาณก็บางปลายขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับ และเคลมประกันได้เพียง 7% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ขั้นตอนแรกข้าพเจ้าต้องขนของทั้งหมดออกจากห้อง และรื้อพื้นออกเพื่อผึ่งให้แห้งสักหนึ่งสัปดาห์ และปูพื้นใหม่ ทาสี และติดชุดครัวใหม่ และขนของกลับ เมื่อมานั่งวิเคราะห์ดู ข้าพเจ้าจะเสียเวลามากมายกับขั้นตอนการขนของ เพราะว่าทำคนเดียวและของข้าพเจ้าเยอะมาก ซึ่งอันนี้เป็นนิสัยที่ต้องได้รับการแก้ไข นับจากนั้น สองสัปดาห์ข้าพเจ้าไม่เป็นอันทำงาน การจัดของย้ายของทำอย่างทุลักทุเล เพราะไม่มีเวลาต้องมาทำภาคค่ำ ภาคดึก ชีวิตสับสน วุ่นวาย อิดโรยเพราะอดนอน โดนทวงงาน สาระพัด สาระพันปัญหา ตามมา
ข้าพเจ้า เชื่อว่า ปัญหาไม่ว่าจะหนักหนาสาหัสเพียงใด ถ้าพระเจ้าอนุญาตให้เกิด ก็จะต้องเป็นสิ่งที่ดีกับชีวิตข้าพเจ้าอย่างแน่นอน หลายสิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้คือการจัดระเบียบชีวิตใหม่ ข้าพเจ้าพบว่าข้าพเจ้ามีข้าวของมากมายเหลือเกิน เกินความจำเป็น หลายอย่างข้าพเจ้ายังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่ามี ที่สำคัญ เหตุการณ์นี้ได้แก้นิสัยชอบชอปปิ้งของข้าพเจ้าให้หายไป เพราะทุกครั้งที่นึกอย่างซื้ออะไรภาพข้าวของมากมายที่ข้าพเจ้าขนย้ายในวันนั้นจะผุดขึ้นมาในสมอง และจากเหตุการณ์นี้ข้าพเจ้าได้รับการฝึกอย่างมากเรื่องความอดทน ความแข็งแกร่งของจิตใจ การพยายามประคับประคองจิตใจ การบริหารจัดการงานให้สามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกตินั้นเป็นเรื่องยากไปเสียแล้ว ท่ามกลางชีวิตที่เสียศูนย์ การบังคับตัวเองให้พยายามทำจนสำเร็จทั้งๆที่รู้สึกเหนื่อยมากและอ่อนระอาใจ เมื่อผ่านมาได้และมองย้อนกลับไป ข้าพเจ้าพบว่าสามารถทำหลายสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำเองได้ก็รู้สึกดีกับตัวเอง
ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า เมื่อเกิดเหตุการ์ที่ไม่ยินดีในชีวิตเรา การแก้ปัญหาในสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในแผนการณ์นั้น ข้าพเจ้าจะทุกข์ใจที่ต้องแก้ปัญหาเหล่านั้นเพราะใจไม่ได้ต้องการให้เกิด ใจไม่ยอมรับความจริงที่ต้องเผชิญ มันไม่มีความสุขเลย มักจะคิดว่า มันไม่น่าเลยนะ มันเกิดขึ้นได้อย่างไรทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ดังนั้น สิ่งที่พระเจ้าทรงสอนคือ การเรียนรู้ที่จะขอบพระคุณในทุกกรณี และให้ข้าพเจ้ามีความอดทน รู้จัดวางแผนรอบคอบมากขึ้น พี่น้องคงจะทราบดีว่าการที่ต้องบริหารจัดการเรื่องหาสาระพัดช่างนั้นไม่ง่ายเลย และการให้ช่างมาทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้ทันเวลายิ่งยากกว่า ข้าพเจ้าได้ รู้จักใคร่ครวญ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้ตกผลึกเรื่องราวปัญหาในชีวิตมากขึ้น ซึ่งข้าพเจ้ารู้ดีว่าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงในชีวิตหน้าที่การงานของข้าพเจ้า เพราะเมื่อพระองค์จะทรงนำพาเราไปในทางที่สูง และเส้นทางนั้นไม่ง่ายที่จะเดินไปถึง เรามองเห็นยอดเขาสูงตระหง่านอยู่ลิบๆ เราจะต้องไม่เดินในทางลัด และยอมให้พระองค์ทรงเป็นผู้นำทาง ให้ความสูงและยอดเขาเป็นจุดมุ่งหมายและแรงผลักดันให้ก้าวเดินต่อไป และข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่าเราจะต้องอยู่ใก้ลพระเจ้าไว้
เมื่อข้าพเจ้ายอมจำนนกับพระเจ้า ท่าทีข้าพเจ้าเริ่มเปลี่ยนไป ข้าพเจ้าเริ่มมีความสุข มากขึ้น ชินกับการขนย้ายของ ชินกับการทำงานหนักเพิ่มขึ้น สนุกสนานกับการสำรวจสิ่งของของตัวเอง ว่ามีอะไรบ้าง ในเมื่อมันเยอะเกินไปจนเกินที่จะเก็บได้ในห้องเล็ก ๆ นี้ (space crisis) ก็ต้องบริจาคไป และสิ่งท้าทายที่ยิ่งสนุกกว่านั้นคือการคิดที่จะเอาของชิ้นนี้ ไปให้ใครดี ที่สุขใจมากกว่านั้นคือท่าทีของผู้รับที่พวกเค้ามีความสุข ข้าพเจ้าเริ่มจัดห้องย้ายของไปพร้อมกับเอาของไปแจกจ่ายให้คนอื่นๆ เพราะข้าพเจ้าไม่อยากมีห้องที่มีของรกเต็มไปหมดแบบเมื่อก่อนแล้ว
นอกจากนี้ ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะยอมรับว่ามีหลายสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ถนัดและทำไม่ได้ เช่น การขนของหนักๆ เยอะๆ ข้าพเจ้าต้องหาคนมาช่วย ขอบคุณพระเจ้าที่มีแม่บ้านที่คอนโดคนนึงอาสามาช่วย ตัวเล็กนิดเดียว ผอมมาก ทุกครั้งข้าพเจ้าจะแปลกใจที่เค้า สามารถทำอะไรได้คล่องแคล้ว ว่องไว ยกอะไรหนักได้อย่างน่าทึ่ง คงเป็นเพราะนั่นเป็นความถนัดของเขา และความเคยชินกับงานที่ทำประจำทุกวัน เหตุการณ์นี้ทำให้ข้าพเจ้าเห็นใจคนที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น ดังนั้นเราควรจะต้องยอมรับจุดอ่อนของเราและเรียนรู้ที่จะพึ่งพาคนอื่น การเลือกคนที่ทำงานตามความเหมาะสมจึงจะเกิดผลเต็มที่
เนื่องจากข้าพเจ้าต้องการทำทุกอย่างให้เสร็จภายในหนึ่งเดือน ทำให้ข้าพเจ้าต้องระมัดระวังและวางแผนอย่างดีเพื่อไม่ให้พลาดเรื่องเวลา หลายสิ่งข้าพเจ้าไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ความผิดพลาดของบริษัทพื้นไม้ที่ส่งของมาผิดถึงสองครั้ง แทบไม่น่าเชื่อว่าบริษัทไม้ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยจะผิดพลาดได้มากขนาดนี้ ข้าพเจ้าพึ่งพระเจ้าให้ทรงนำพา พระเจ้าให้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ได้เห็นการอัศจรรย์ที่บริษัทไม้ให้ไม้ที่มีคุณภาพและราคาแพงมากขึ้นเกือบสองเท่ามาแทนในราคาเดิมเพื่อเป็นการขอโทษ ฮาเลลูยา ยิ่งเรียนรู้ที่จะพึ่งพระเจ้ามากขึ้นทำให้ข้าพเจ้าได้ติดสนิทกับพระเจ้ามากขึ้น มากขึ้นวันต่อวัน ข้าพเจ้าอุ่นใจว่าไม่ว่าจะเหนื่อยและลำบากเพียงใด พระองค์ก็ทรงรักและทรงดูแล ข้าพเจ้าเสมอ ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงดูแลข้าพเจ้าให้มีความอดทน อดกลั้นมากขึ้น ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ถึงปรากฏการณ์ใหม่ในชีวิต สิ่งที่ฝรั่งเรียก ว่า Extra ordinary energy การดึงเอาพลังงานในตัวมาใช้ แบบก๊อกสองก๊อก สาม เรียกว่าสุดๆไปเลยแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ข้าพเจ้าไม่ป่วยเลยตอนซ่อมพื้นห้องและย้ายของ ทั้งที่เป็นช่วงที่อากาศแปรปรวนมาก ช่วงนั้นอากาศเย็นลงในกรุงเทพฯ 2-3 รอบ
เนื่องในวันอิสเตอร์ ขอให้เรามีชีวิตที่มีชัยชนะ ให้เราจดจ่ออยู่ที่พระเจ้าเถิด ขอให้เรารู้ว่าฤทธิ์อำนาจแห่งการฟื้นคืนพระชนม์มีผลเปลี่ยนแปลงชีวิตเราจากภายในสู่ภายนอกผ่านทางความสัมพันธ์อันติดสนิทกับพระเจ้า ขอหนุนใจพี่น้องที่รักว่า ไม่ว่าเราจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน สาหัสเกินกว่าจะรับได้ แม้ว่ามันแสนจะยากที่จะทำใจยอมรับ และแม้ว่าเราจะรู้อยู่แก่ใจดีว่ามันเกินความสามารถของเราที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ก็ตาม ขอให้เราเชื่อและวางใจ นั่นคือการที่เราจะไม่ลังเลหรือหยุดรีรอ เมื่อหนทางเริ่มขรุขระและสูงชัน เราจะสูดหายใจลึกๆ แล้วจับมือพระองค์ให้แน่น พร้อมที่จะเดินไปกับพระองค์ เพราะเรารู้อยู่เสมอว่าพระเจ้าทรงห่วงใยและเฝ้ามองดูเราอยู่ พระองค์ทรงต้องการสอนให้เราเป็นคนที่ใช้การได้มากขึ้น มากขึ้น เป็นที่ถวายเกียรติ์แก่พระองค์ ฮาเลลูยา ให้เราชื่นชมยินดีกับทุกจังหวะชีวิตที่พระเจ้าเป็นผู้กำหนด
พระเจ้าอวยพระพรในวันอิสเตอร์ค่ะ ขอพระคุณ สันติสุข และความรักจงดำรงอยู่ตลอดไป
14 กุมภาพันธ์ 2559
ดวงรัตน์ อินทร (องุ่น)
e-mail: [email protected]
Line ID: budoosan