angoo800

เมื่อน้ำท่วมห้องข้าพเจ้าอีกครั้ง!!

สงกรานต์หรือปีใหม่ไทยปีนี้ข้าพเจ้ารู้สึกดีมากที่สามารถจัดเวลาไปกราบสวัสดีปีใหม่ผู้มีพระคุณหลายท่านอันเป็นที่รัก ได้รับพรจากอาจารย์ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยรวมทั้งคุณหมอที่ผ่าตัดให้ข้าพเจ้าด้วยรู้สึกอิ่มเอิบใจ วันที่ 13เมษายน 2559 เป็นวันหยุดข้าพเจ้าไปกราบสวัสดีปีใหม่ คุณพ่อคุณแม่ ครอบครัวเราไปทานข้าวกัน ขณะขับรถกลับบ้านน้องช่างที่คอนโดโทรมาบอกว่าพี่ๆ ห้องพี่น้ำท่วมอีกแล้วนะ ข้าพเจ้าคงจะช๊อค แทบจะลืมเบรคขณะขับรถ

เมื่อออกจากลิฟท์ที่ชั้น 7 พบว่าช่างที่คอนโดสองคนกำลังช่วยกันสกัดน้ำไม่ให้เข้าลิฟท์ น้ำจำนวนมากจากห้องข้าพเจ้าไหลลดเลี้ยวมุมตึกกำลังจะไปถึงหน้าลิฟท์ มีลูกบ้านเห็นแล้วลงไปแจ้งช่างว่าคงเล่นสงกรานต์กันหนักช่างเลยรีบมาดู (ถ้าน้ำเข้าลิฟท์ ข้าพเจ้านึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดความเสียหายมากขนาดไหน รวมถึงข้าพเจ้าคงจะต้องจ่ายเงินค่าซ่อมและอาจทำความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านถ้าพวกเค้าไม่มีลิฟท์ใช้) แม่บ้านก็หยุดกลับบ้านกันหมดไม่มีใครช่วยเลย
ข้าพเจ้าปิดประตูห้องนั่งพิงประตูอย่างหมดแรง ความรู้สึกตอนนั้นสับสนจนบรรยายไม่ถูก รับไม่ได้กับเหตุการณ์นี้ ไม่มีน้ำตาสักหยดที่จะไหลเหมือนตอนน้ำท่วมครั้งแรก ก้มหน้าจะอธิษฐานก็ไม่สามารถอธิษฐานได้เพราะหงุดหงิดกับพระเจ้าที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ข้าพเจ้าเข้าใจความรู้สึกของบางคนที่ล้มลงในความเชื่อ ข้าพเจ้าเชื่อว่ามารซาตานรู้จุดอ่อนของเราดี และพร้อมโจมตีจุดอ่อนของเราตลอดเวลาโดยใส่ความรู้สึกเชิงลบต่างๆมากมายเสียจนปวดหัว แค่นึกวนเวียนไปมาว่าจะต้องทำอะไรบ้างกับการเปลี่ยนพื้นห้องและเหนื่อยยากแค่ไหนก็รู้สึกท้อแท้หมดแรงสู้

เมื่อหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากเฝ้าคิดวนเวียนแต่เรื่องน้ำท่วมรอบสอง ข้าพเจ้าเริ่มอธิษฐานสารภาพกับพระเจ้าว่าข้าพเจ้าเสียใจที่มีท่าทีที่ไม่ถูกต้อง ข้าพเจ้ารู้ดีว่าพระเจ้าคงเสียพระทัยกับพฤติกรรมของข้าพเจ้าที่ ทั้งหงุดหงิด บ่นตัดพ้อต่อว่าพระเจ้าสารพัด แบบที่ตั้งแต่เป็นคริสเตียนมาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย (เมื่อย้อนกลับไปทนทวนดู ข้าพเจ้ารู้ตัวดีว่าไม่ผ่านการทดสอบนี้) หนึ่งสัปดาห์เต็มกับความทุกข์ทรมานจิตใจ ข้าพเจ้าบอกกับพระเจ้าว่าข้าพเจ้าเสียใจ และคิดไม่ออกว่าจะได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นี้ ข้าพเจ้าสารภาพว่าไม่เข้าใจและรับไม่ได้ที่พระเจ้าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าอีก ข้าพเจ้าเสียเวลาปีนี้ทั้งปีแทบไม่ได้ทำงานมัวแต่ย้ายของมันสุดแสนจะทน แต่ก็เห็นว่าเป็นความผิดพลาดทางความคิดและการกระทำที่ไม่ถูกต้องที่ต่อว่าและโทษพระเจ้ากลับยิ่งเป็นการซ้ำเติมตัวเองให้ระทมทุกข์มากขึ้นไปอีก ข้าพเจ้าทุรนทุรายดิ้นรนต่อสู้กับความคิดแบบนี้วนไปเวียนมา จนข้าพเจ้ายอมจำนนกับพระเจ้าว่าข้าพเจ้าพร้อมแล้ว ที่จะเรียนรู้บทเรียนเดิมนี้อีกครั้ง ลึกๆในใจข้าพเจ้ารู้ว่าสิ่งนี้จะเป็นผลดีกับข้าพเจ้า (โรม 8:28) ขอพระเจ้าทรงเมตตาสอนข้าพเจ้าด้วยเถิด และข้าพเจ้าก็ร้องไห้สารภาพบาปกับพระเจ้าว่าข้าพเจ้าเสียใจและขอทรงให้อภัยข้าพเจ้าด้วย ขอให้พระองค์รู้ว่าข้าพเจ้ารักพระองค์เสมอและยอมทุกสิ่ง และจะเชื่อฟังทุกอย่าง ข้าพเจ้าเริ่มคิดที่จะเริ่มขอบคุณพระเจ้าให้ได้อีกครั้ง…………

ข้าพเจ้าเริ่มตั้งสติ ทำใจได้มากขึ้น ข้าพเจ้าเริ่มขอบคุณพระเจ้าที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมแต่ไม่เกิดความเสียหายภายนอกห้องข้าพเจ้า ยิ่งอธิษฐานขอบพระคุณมากขึ้น ยิ่งพบว่า สันติสุขก็ครองใจข้าพเจ้าอีกครั้ง สำหรับ ขั้นตอนการแก้ปัญหาไม่ต้องมีอะไรกังวลหรือคิดมากนัก ทำได้คล่องแคล้วดีขึ้น เพราะว่าเพิ่งทำมาเสร็จหยกๆ เมื่อเดือนมีนาคมที่แล้วก่อนเหตุการณ์นี้เอง ข้าวของยังอยู่ในลังยังไม่ได้จัดเอาออกเลยวางแผนไว้ว่าจะทำตอนช่วงหยุดสงกรานต์นี่ คราวนี้ข้าพเจ้าเปลี่ยนพื้นห้องเป็นกระเบื้องลายไม้แทนแล้ว มันสวยมากด้วย แต่มีข้อเสียที่เดินเหยียบแล้วเย็น กระด้างเท้ามาก อย่างไรก็ตามขอบคุณพระเจ้าที่มีพัฒนาการผลิตกระเบื้องที่ทันสมัย ทำให้ห้องข้าพเจ้ายังดูอบอุ่นด้วยบรรยากาศพื้น (กระเบื้องลาย)ไม้เหมือนเดิม
เมื่อวันเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน เกิดเหตุการ์ประจวบเหมาะอย่างประหลาด มีโรคภัยร้ายแรงเกิดกับเพื่อนรักเพื่อนสนิทที่ทำงานทะยอยป่วยด้วยโรคร้ายระยะร้ายแรงกันหลายคน บางคนก็เป็นมะเร็งที่หน้าอก มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งในมดลูก ยิ่งเห็นภาพพวกเค้าทุกข์ทรมานกับการรักษาทางคีโมที่โหดร้าย ร่างกายทรุดโทรม อีกคนเป็นรุ่นพี่ที่สนิทกันมากเป็นเนื้องอกที่ก้านสมองทำให้วูบ เมื่อข้าพเจ้าลองกลับมานั่งทบทวนดูไม่ใช่เพราะพระคุณพระเจ้าหรือ ข้าพเจ้าไม่ได้เจ็บป่วยอะไรมากมายแบบพวกเค้า ข้าพเจ้าเพียงแค่เสียเงิน เสียเวลา แต่ก็เป็นการฝึกฝนที่ดีไม่ใช่หรือในเรื่องของความ อดทน ความรอบคอบ ควรหมั่นตรวจเช็คดูแลบ้านเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ให้ปลอดภัย

จากเหตุการณ์นี้ทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า ถ้าเป็นน้ำพระทัยพระเจ้าต้องการให้อะไรเกิด ก็ต้องเป็นตามนั้น ดังนั้นเราต้องเตรียมจิตใจให้พร้อมเผชิญกับการทดสอบนั้นอยู่เสมอ บทเรียนที่พระเจ้าให้กับเราบางครั้งมันอาจจะยาก ยากมากจนแทบจะรับไม่ไหว แต่เราต้องไม่ลืมว่า พระเจ้าทรงรู้จักเราดีกว่าเรารู้จักตัวเองเสียอีก พระเจ้าจะไม่ให้อะไรที่ยากเกินกว่าเราจะทนได้ (1โครินธ์10:13) หรืออีกนัยหนึ่งถ้าข้าพเจ้าจะต้องเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายอีกครั้ง ข้าพเจ้าคิดว่าอาจจะยังทำได้ไม่ดีพอสำหรับบทเรียนคราวที่แล้ว ซึ่งยังคงต้องฝึกอีก พัฒนาอีก จนกว่าข้าพเจ้าจะพร้อมและเป็นคนที่ใช้การได้ในสายพระเนตรของพระเจ้า ซึ่งในชีวิตจริง ข้าพเจ้าได้ถูกฝึกมากในเรื่องการคิดการเตรียมการที่มักจะซับซ้อน แต่กลับละเลยเรื่องความจำเป็นพื้นฐานให้มั่นคงก่อน ยกตัวอย่างเช่น งานข้าพเจ้ามีรายละเอียดและมีมิติที่ซับซ้อน เช่น การเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์นักศึกษาปริญญาโท-เอก ทั้งเรื่องงานวิจัยและคิดช่วยแก้ปัญหาที่ซับซ้อนของตัวนักศึกษา จนละเลยไม่ค่อยดูแลบ้าน เป็นต้น แต่พระเจ้าทรงสอนให้ข้าพเจ้าเป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมมากขึ้น กล่าวคือ ให้ฝึกการรักษาสมดุลชีวิตทั้งในเรื่องการดำเนินชีวิตทั่วๆไป และความซับซ้อนของการทำงานในที่ทำงานไปพร้อมๆกัน

ทีสำคัญพระเจ้าสอนเรื่องของการให้อภัย พี่น้องคงจะอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดท่อน้ำจะขยันแตกได้บ่อยขนาดนั้น ครั้งแรกแตกที่ท่ออ่อนใต้อ่างล้างมือตรงครัว ครั้งที่สองที่ ท่อชำระสตรีในห้องน้ำ เป็นที่น่าสังเกตคือเกิดเหตุในช่วงวันหยุดยาวที่แทบไม่มีใครอยู่ในอาคารเลย สาเหตุเป็นเพราะมีการเปลี่ยนบริษัทจัดการอาคารและช่างประจำอาคารปรับเกย์วาลว์น้ำจ่ายน้ำรวมแรงเกินไป ซึ่งทำให้ใครที่อยู่จำนวนน้อยในช่างนั้น เกิดปัญหา (มีห้องอื่นอีกที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน แต่พื้นห้องเป็นกระเบื้องจึงไม่เสียหายมากเหมือนห้องข้าพเจ้าที่เป็นพื้นเอ็นจิเนียวูด) ซึ่งทางฝ่ายจัดการก็รับทราบถึงความผิดพลาดนี้ น้องๆช่างทุกคนกลัวข้าพเจ้ามากเลยว่าจะร้องเรียนพวกเค้า แต่เมื่อข้าพเจ้าอธิษฐานดูก็ไม่ได้คิดเอาเรื่องราวใดๆเพราะเห็นใจช่างที่มีความรู้ความชำนาญน้อย และไม่มีทุนทรัพย์ ขอเพียงให้พวกเค้าพัฒนาตัวเองและดูแลให้ดีขึ้นในอนาคต พวกช่างยังคุยกันว่าโชคดีที่ข้าพเจ้าเป็นคริสเตียนใจดี

มาถึงวันนี้ ข้าพเจ้าสารภาพว่าก็ยังจัดห้องไม่เสร็จ เหลือกองหนังสือแสนรักที่ยังตัดใจจะทิ้งไม่ได้เสียที แต่ก็พยายามตั้งใจว่าต้องจัดการให้เสร็จก่อนปีใหม่มาเยือน ปีนี้นับเป็นปีแห่งการจัดระเบียบชีวิตของข้าพเจ้าโดยแท้จริง
เมื่อข้าพเจ้ากลับมาติดสนิทกับพระเจ้ามากขึ้น พระเจ้าประทานสันติสุขกลับคืนมาสู่ชีวิตอีกครั้ง พระพรก็หลั่งไหลเข้าสู่ชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้รับรางวัลอาจารย์ตัวอย่างของคณะฯ ซึ่งรางวัลอาจารย์ตัวอย่างนี้ แม้เพียงเป็นรางวัลเล็กๆระดับคณะฯที่มอบให้หลังทำงานมา 20 ปี แต่ก็เป็นรางวัลที่ให้เพียงคนเดียวในคณะฯ สำหรับข้าพเจ้าแล้วช่างมีความหมายลึกซึ้งเป็นส่วนตัวกับพระเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่ความชื่นชมยินดี เพราะเป็นเครื่องหมายยืนยันว่าข้าพเจ้าผ่านการทดสอบความอดทน และเป็นบทเรียนสำคัญยามเมื่ออยู่ท่ามกลางถิ่นทุรกันดารนั้น ข้าพเจ้าควรมีท่าทีที่ถูกต้องและมีความเชื่อ วางใจในพระเจ้า แม้การสอบผ่านขอข้าพเจ้าจะต้องซ่อมถึงสองรอบก็ตามที

เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้านี้ ขอให้พี่น้องลองสำรวจและใคร่ครวญดูถึงเรื่องราวความทุกข์ยากในชีวิตของท่าน ว่าท่านให้พระเจ้าอยู่กับท่านในช่วงเวลายากลำบากนั้นหรือไม่ และท่านได้เรียนรู้บทเรียนอะไรบ้างจากเหตุการณ์เหล่านั้น ข้าพเจ้าเชื่อว่าหลายท่านเคยมีประสบการณ์ที่ล้ำค่าเหล่านั้น “เมื่อพวกท่านพบกับการทดลองใจต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง เพราะพวกท่านรู้ว่าการทดสอบความเชื่อของท่านนั้น ทำให้เกิดความทรหดอดทน” (ยากอบ 1:2-3) ให้เราสรรเสริญขอบพระคุณร่วมกัน เพราะเรารู้ว่าพระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ และขอให้เรามั่นใจว่าแม้ว่ายามต้องผ่านหุบเขาเงามัจจุราชในชีวิตเราการทรงกู้จากพระเจ้าจะมาทันเวลา ขอเพียงให้เราติดสนิทกับพระเจ้า ไม่ตั้งอยู่ในประมาทสวมยุทธพันธของพระเจ้าและพร้อมระวังอยู่เสมอ

ขอพระเจ้าอวยพระพร เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าค่ะ
ดวงรัตน์ อินทร (องุ่น)
เที่ยงคืน 7 พฤศจิกายน 2559
E-mail: [email protected]
Line ID: budoosan