ข้าพเจ้ามีความใฝ่ฝันอยากเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน อาจจะเป็นเพราะมีความประทับใจในความเป็นแบบอย่างที่ดีของอาจารย์หลายหลายท่านที่มีส่วนสำคัญในชีวิตการเรียนของข้าพเจ้า เหตุผลที่อยากเป็นอาจารย์อาจจะเป็นเพราะว่าคิดว่าจะสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้ในมุมกว้างขวางและได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ และประกอบกับเป็นคนชอบสอน ชอบอธิบาย ก่อนที่จะเรียนจบประมาณหนึ่งปีข้าพเจ้าได้อธิษฐานและฝากพระเจ้าถึงสถานที่ทำงานในอนาคต และมั่นใจว่าพระเจ้าทรงนำพาให้มาทำงานที่มหิดลนี้ และการได้เข้าทำงานก็ช่างง่ายดายอย่างอัศจรรย์ ในที่สุดเมื่อข้าพเจ้าเรียนจบปริญญาเอกมาทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพสิ่งแวดล้อม จากประเทศญี่ปุ่น เมื่อเริ่มมาทำงานข้าพเจ้าก็ต้องแปลกใจในพระประสงค์ของพระเจ้า เพราะที่ทำงานเป็นคณะและภาควิชาที่เก่าแก่มาก และไม่มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์รวมถึงห้องปฏิบัติการให้ทำการวิจัย นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างจากคณะวิทยาศาสตร์ที่ข้าพเจ้าร่ำเรียนมาอย่างสิ้นเชิง หลายครั้งข้าพเจ้าประสบปัญหาไม่สามารถทำงานวิจัยได้เพราะขาดความพร้อมและการสนับสนุนจากภาควิชาฯ ข้าพเจ้าท้อแท้และรู้สึกหมดหวัง การทำสิ่งที่ง่ายก็กลายเป็นยากเสียแล้วนับประสาอะไรกับสิ่งที่ยากเล่า แต่พระเจ้าทรงเล้าโลมจิตใจข้าพเจ้าเสมอและทรงเติมเรี่ยวแรงให้ข้าพเจ้าสามารถต่อสู่ต่อไปและเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาส ข้าพเจ้าเป็นคนมองโลกในแง่ดี และขยันทำงาน ยิ่งมีปัญหาและอุปสรรคมากเท่าไรข้าพเจ้าก็ยิ่งอธิษฐานและขยันทำงานมากขึ้นเเท่านั้น ข้าพเจ้าพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อถวายเกียรติ์กับพระเจ้า ” จงหล่อเลี้ยงความใฝ่ฝันและการมองโลกในแง่ดีเอาไว้ดังว่าทั้งสองอย่างเป็นทายาทของวิญญาณท่าน เพราะนั่นคือแบบแผนของความสำเร็จปลายทาง” นโปเลียน ฮิล แปดปีที่ผ่านมาข้าพเจ้าทำงานหนัก ทำวิจัยมากขึ้น วันต่อวันข้าพเจ้าก็มีลูกศิษย์มากขึ้น ผลงานวิชาการมากขึ้น มีการพัฒนาตัวเองให้มีองค์ความรู้ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะนำไปใช้พัฒนาและสร้างนักศึกษาระดับปริญญาโทที่ภาควิชาที่ร่วมทำงานวิจัยกับข้าพเจ้ามากขึ้น และในที่สุดการพัฒนาเหล่านี้ก็จะกลับมาสู่ภาควิชา คณะและมหาวิทยาลัยในที่สุด ข้าพเจ้ากลายเป็นคนที่เด่นมากขึ้นในภาควิชาโดยปริยายเนื่องจากไม่ค่อยมีคนทำกันมากนัก ซึ่งแน่นอนทุกท่านก็ทราบดีว่าในสังคมปัจจุบันซึ่งมีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันสูงนี้ย่อมไม่มีใครอยากเห็นใครได้ดี ดังที่มีคำกล่าวว่า “จงทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย” เมื่อเวลาผ่านไป การกลั่นแกล้ง หลายรู้แบบก็เริ่มตามมา บางครั้งรุนแรงจนแทบทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกบาดเจ็บ (ทางอารมณ์) เสียสุขภาพจิต และแทบสูญเสียความมั่นใจในตัวเองเคยก็มี บางครั้งข้าพเจ้ารู้สึกว่าความพยายาม ความตั้งใจในการทำงานทั้งสิ้นทั้งปวงที่จะสร้างความมั่นคงทางวิชาการให้ภาควิชาพังทลายลงเหมือนภาพตึกเวอร์เทรดที่ถล่มลงมาจากแรงระเบิดที่เราเห็นรูปที่น่าสพึงกลัวในข่าว เชื่อว่าพี่น้องหลายคนก็คงจะเคยรู้สึกสูญเสียพลังสร้างสรรในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแบบข้าพเจ้า เมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่รับไม่ได้และรู้สึกว่าสุดทนจริงๆ (แผนสกัดดาวรุ่งไงค่ะ) จนเมื่อปี 2545 ข้าพเจ้าตัดสินใจที่จะย้ายที่ทำงานไปคณะวิทยาศาสตร์ และเหตุการณ์ก็ดูเหมือนจะเป็นไปอย่างที่แรงปรารถนาที่ข้าพเจ้าร้องขอจากพระเจ้า แต่เมื่อเดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกา พระเจ้าก็สำแดงว่าต้องการให้ข้าพเจ้าทำงานอยู่ที่เดิมและทรงปิดประตูทุกหนทาง จำได้ว่าข้าพเจ้าร้องไห้กับพระเจ้าทุกวันอยู่เป็นเวลาหลายวันทีเดียว แต่อุปสรรคไม่อาจทำลายข้าพเจ้าได้ เพราะอุปสรรคใดๆก็ตามย่อมต้องพ่ายแพ้ต่อความมุ่งมั่นทั้งนั้น ในที่สุดข้าพเจ้าก็ยอมจำนนต่อพระเจ้าเพื่อที่จะทำงานที่นี่ต่อไป นับเป็นเรื่องแปลก เมื่อข้าพเจ้ายอมกับพระเจ้านั้น ข้าพเจ้ากลับมีทัศนคติและท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ข้าพเจ้าเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มาจากพระเจ้า เพราะเพื่อนร่วมงานคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลง “สรรพสิ่งยังคงดำเนินไปเช่นนั้นดังเดิม เพียงแต่ตัวท่านเองที่เปลี่ยนมุมมอง” คาร์ลอส คาสตานิดา เราต่างหากที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยความรักของพระเจ้า เราจะสามารถมองพวกเค้าได้อย่างเข้าอกเข้าใจและเห็นใจพวกเค้าได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนเมื่อพระเจ้าเปลี่ยนแปลงตัวข้าพเจ้าท่าทีของข้าพเจ้าเองก็เปลี่ยนไป ข้าพเจ้าเริ่มเปิดบัญชีออมใจกับคนที่ทำร้ายข้าพเจ้ามากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น ให้อภัยมากขึ้น มากขึ้น เข้าใจพวกเค้ามากขึ้น มากขึ้น ดังนั้นตัวข้าพเจ้าเองก็คงน่ารักมากขึ้น และสิ่งที่ตามมาก็คือทุกคนก็น่ารักกับข้าพเจ้ามากขึ้น นั่นเป็นประสบการที่ดี และมีค่ามากของข้าพเจ้าที่ได้กลับมามีความสุข และมีสันติสุขในการทำงานอีกครั้ง ฮาเลลูยา ข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเสริมสร้างข้าพเจ้าให้เป็นอาจารย์ที่ดี มีวิญญาณแห่งความเป็นครู ที่ไม่ใช่เพียงแค่คิดจะรับผิดชอบเพียงในเรื่องการสอนหนังสือเท่านั้น แต่สามารถเป็นที่พึ่งให้นักศึกษาในยามที่เค้าทุกข์ยากและต้องการความช่วยเหลือ (ซึ่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยมักจะไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับนักศึกษาเหมือนในโรงเรียน) ประตูห้องทำงานของข้าพเจ้าจะเปิดกว้างเสมอสำหรับลูกศิษย์ทุกคนของข้าพเจ้า และนั่นแหละที่ข้าพเจ้าค้นพบว่าคือความสุขที่แท้จริงของการเป็นครู ที่จะเห็นนักศึกษาเก่งกว่าเรา และเจริญก้าวหน้าเมื่อเรียนจบไป ถ้าพวกเค้ายังคิดถึงเราและกลับมาเยี่ยมเยียนเมื่อมีโอกาส นั่นยิ่งทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราทุ่มเทให้ไปนั้นพวกเค้าเห็นคุณค่าและรักคณะเมื่อเค้าเรียนจบไป ข้าพเจ้าเชื่อว่าหัวใจของครูทุกคนจะเบ่งบานกันทุกคนเพราะ ครู คือผู้ที่ทอดตัวลงเป็นสะพาน ชี้ชวนให้ลูกศิษย์ก้าวผ่าน เมื่อส่งศิษย์ถึงฝั่งแล้ว สะพานก็กร่อนลงอย่างอิ่มเอมใจ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น ทอดตัวลงเป็นสะพานสืบไปบ้าง นิโคส คาซานต์ซาติส ข้าพเจ้าเขียนบทความนี้ตั้งใจเป็นพิเศษเพื่อหนุนใจพี่น้องที่มีปัญหาที่ที่ทำงาน ว่าพระเจ้าทรงมีพรประสงค์ให้ท่านเป็นพระพรและเป็นแสงสว่างในที่ทำงานของท่าน ไม่ว่าบางครั้งสถานการณ์จะดูเหมือนเลวร้ายเพียงใด ไม่ว่าความยุติธรรมดูจะเหือดหายไปมากเพียงไหน ขอให้ท่านขยันหมั่นเพียรในการทำงาน โดยรับผิดชอบในหน้าที่อย่างเต็มที่ และตั้งอยู่บนความซื่อสัตย์ และทำความดีอยู่เสมอ อย่าท้อใจในการทำดี การที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดกับชีวิตของเรา (อาจจะต้องเสียใจ ชอกช้ำใจจนต้องร้องไห้ก็ตาม) พระองค์มีวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกของพระองค์แต่ละคน จากประสบการณ์ของข้าพเจ้านั้น เพื่อจะให้ข้าพเจ้าได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเชื่อมั่นคงเพิ่มมากขึ้น และเพื่อหล่อหลอมข้าพเจ้าให้เป็นคนที่ใช้การได้มากขึ้น และนั่นเป็นกระบวนการสร้างอย่างอัศจรรย์ในชีวิตข้าพเจ้า เป็นประสบการณ์ที่มีค่าอย่างเหลือล้นในชีวิตข้าพเจ้า ขอให้เราเรียนรู้ที่จะผ่านถิ่นทุรกันดารเหล่านั้นด้วยการขอบพระคุณ โดยส่วนตัวข้าพเจ้าจะถามกับพระเจ้าเสมอว่าทรงต้องการสอนอะไรแก้ข้าพเจ้าเมื่อต้องผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ ข้าพเจ้าเชื่อว่าน้ำตาทุกหยดของข้าพเจ้าพระเจ้าทรงนับไว้หมดแล้ว ข้าพเจ้าอยากหนุนใจพี่น้องที่ไม่ค่อยได้รับ โปรโมชั่น ในที่ทำงานด้วยประสบการณ์ของข้าพเจ้า อีกสักหน่อย ในที่ทำงานข้าพเจ้าทำงานทุกอย่างทั้งการเรียนการสอนและช่วยภาควิชารวมถึงคณะในหลายๆด้าน แต่ข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนอย่างเหมาะสมตามภาระงานตลอด 8 ปีที่ทำงานมา บางครั้งก็ยอมรับว่ารู้สึกท้อแท้ แต่ข้าพเจ้าก็ยังขอบคุณพระเจ้าเสมอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ทำงานในอาชีพที่ตัวเองรัก (ท่านก็รู้นี่นาว่าการที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารักนั้นเรามักจะทำทุกอย่างได้ดี และมีความสุขกับงานมาก) ที่มีนักศึกษาที่ดีๆ น่ารัก ทำให้ข้าพเจ้าชุ่มชื่นใจอยู่เสมอ การทำงานสายวิชาชีพวิชาการโดยเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของรัฐนับว่าดีมาก เพราะความเจริญก้าวหน้าจะเป็นไปตามผลงานของเราเอง ดังนั้นต่างคนจึงต่างก้าวหน้าในตำแหน่งวิชาการได้โดยไม่ต้องขึ้นต่อกันและกัน (ไม่มีความจำกัดของตำแหน่งเหมือนในหน่วยงานราชการอื่นๆ) พระเจ้าอวยพรข้าพเจ้าอย่างมากในหน้าที่การงานอยู่เสมอ ข้าพเจ้ามักจะมีโอกาสเดินทางไปหาประสบการณ์ในต่างประเทศ (แล้วข้าพเจ้าจะหาเวลาเล่าให้ท่านฟัง เรื่อยๆ) ทำให้ข้าพเจ้ามีโลกทัศน์ที่ก้าวไกลมากขึ้น และยังได้เพิ่มพูนความรู้ในวิชาการ ตลอดจนได้รู้จักนักวิชาการเก่งๆจากต่างประเทศ ซึ่งท่านเหล่านั้นก็สนับสนุนข้าพเจ้าในการทำวิจัยต่างๆเสมอ พระเจ้าทรงดูแลให้ข้าพเจ้ามีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี ข้าพเจ้าเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ที่มีอายุน้อยที่สุดในคณะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับสนับสนุนเรื่องเลื่อนขั้นเงินเดือนจากภาควิชา ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะพระเจ้าทรงดูแลลูกของพระองค์เสมอ พระองค์จะอวยพรมากมายท่ามกลางชีวิตของเราเมื่อเราพร้อมจะรับพระพรนั้น ดังนั้นขอให้รอคอยเวลาของพระเจ้า และเรียนรู้ที่จะขอบพระคุณในทุกกรณี แล้วท่านจะพบว่าการอัศจรรย์มากมายจะเกิดขึ้นแบบไม่ขาดสายในชีวิตท่าน เคล็ดลับก็คือว่าท่านต้อง เรียนรู้ที่จะขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณี อดทน รู้จักรอคอยเวลาของพระเจ้า และไม่อ่อนระอาในการทูลขอ อธิษฐานวิงวอนกับพระเจ้าด้วยใจขอบพระคุณ ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า พระเจ้าทรงรู้จักท่านดีกว่าตัวท่านเองรู้ใจตัวเองเสียอีก พระองค์ทรงทราบว่าอะไรดี เหมาะกับท่าน ทรงสัตย์ซื่อ ทุกๆอย่างในชีวิตท่านทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับท่านไว้ให้แล้ว หนึ่งปีหลังจากที่ได้รับตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ข้าพเจ้าได้รับการขึ้นเงินเดือน ในปี 2546 โดยนโยบายของท่านนายกทักษิณ และเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจท่ามกลางความชื่นชมยินดี เพราะว่าข้าพเจ้าได้รับการขึ้นเงินเดือนในทั้ง 3 เงื่อนไข กล่าวคือ เงินเดือนขึ้น สองขั้น เงินเดือนขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ เงินตำแหน่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า โดยที่น้อยคนนักจะได้รับมากมายทุกเงื่อนไขเช่นนี้ พระพรยังไม่หยุดหลั่งไหลเข้ามาในชีวิตข้าพเจ้า ในปีนี้ข้าพเจ้าได้เลื่อนเป็นระดับ 9 (ซี 9) ซึ่งจากระดับ 7-8-9 นั้นข้าพเจ้าได้รับอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วมากในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น ฮาเลลูยา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ข้าพเจ้าไม่เคยคาดฝันหรือร้องขอกับพระเจ้าเลย ข้าพเจ้าเองเสียอีกกลับคิดว่าข้าพเจ้ายังไม่ดีพอสำหรับ พระคุณมากมายเช่นนี้ ข้าพเจ้าอยากหนุนใจพี่น้องว่าพระเจ้าทรงโปรดปรานท่าทีที่เราของพระคุณพระเจ้าด้วยความจริงใจในทุกกรณี และพระเจ้าทรงเฝ้าดูเราอยู่ในทุกสถานการณ์ และพระองค์ผู้ทรงสัตย์ซื่อจะทรงเลี้ยงดูเราอย่างดี เราควรจะต้องรู้ว่า เราจะได้รับสิทธิพิเศษเสมอ เพราะเราเป็นลูกที่รักของพระเจ้า ดังนั้นเราทำงานอะไรก็ตาม เราก็มีความสำคัญทั้งสิ้นในสายพระเนตรของพระเจ้า ของเพียงให้เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด และพระพรมากมายจะตามมาเมื่อเวลาของพระองค์มาถึง และเพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ว่าสิ่งดีทั้งหลายที่เราได้เข้ามาในชีวิตเรา เราไม่ได้ได้มาด้วยความสามารถของตัวเราเอง แต่เป็นเพราะพระเจ้าทรงประทานให้ เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ที่จะขอบพระคุณอย่าหมดหัวใจของเรา ดังนั้นท่านจงเตรียมตัวให้พร้อม อย่าย่อ ท้อ แม้สถานะการณ์จะเลวร้ายเพียงใด ขอจงอย่ามองด้วยสายตาของเรา เพราะนั่นจะทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นจนเรามัวแต่วิตกกังวล เสียใจจนไม่ได้ยินเสียงของพระเจ้า ขอให้ท่านอธิษฐานและฝากปัญหาเหล่านั้นไว้กับพระเจ้า และให้หมั่นเพียรทำความความดีต่อไป โดยไม่หวังผลตอบแทน และพระองค์จะทรงประทานทุกสิ่งเต็มล้นบริบูรณ์ให้กับชีวิตของท่านเกินความคาดคิดของท่าน ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่านค่ะ Share this postFacebook