วิธีการอ่านพระคัมภีร์

กิจการ 20: 32 “บัดนี้ข้าพเจ้าฝากท่านไว้กับพระเจ้า และกับคำแห่งพระวจนะของพระองค์ ซึ่งมีฤทธิ์อาจก่อสร้างท่านขึ้น

1. การอ่านพระคัมภีร์ต้องอ่านเป็นประจำ พระคัมภีร์เป็นอาหารฝ่ายวิญญาณจิต พระคำพระเจ้าสามารถก่อร่างสร้างตัวเราขึ้น ให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณจิต

2. เราต้องมีท่าทีที่ถูกต้องในการอ่านพระคัมภีร์ ถ้าท่าทีเราไม่ถูกต้อง ไม่ว่าเราจะใช้วิธีอ่านพระคัมภีร์แบบใด ๆ ก็ตาม จะไม่เกิดประโยชน์กับเรา ถ้าเราอ่านพระคัมภีร์แบบเบื่อหน่าย ความผิดปกติไม่ได้อยู่ที่พระคัมภีร์ หรือผู้เขียน แต่อยู่ที่เรา ท่าทีที่ถูกต้องเป็นกุญแจดอกสำคัญในการใช้เวลาอ่านพระคัมภีร์

2.1 ชำระจิตใจให้สะอาด (1 เปโตร 2: 1 ) โปรดสังเกตุว่าก่อนที่เราจะรับน้ำนมฝ่ายวิญญาณ พระคัมภีร์สอนให้เราละความชั่วทั้งปวง อุบายต่าง ๆ ความไม่จริงใจ ความริษยา
ท่าทีที่ถูกต้อง ต้องเกิดขึ้นก่อนรับพระวจนะ การมีใจใสสะอาถูกต้อง ทำให้เราหิวพระคำ

2.2 หิวกระหายพระคำ (1 เปโต 2: 2 ) การอ่านพระคัมภีร์ถ้าเราไม่มีความปรารถนา ไม่หิวกระหาย แสดงว่าใจของเราผิดปกติ อาจเป็นเพราะมีสิ่งอื่นในสมองที่ไร้สาระมากมา เราจึงไม่รู้สึกรักพระคำ ความหิวเป็นปกติของชีวิตใหม่(สดุดี 119:131 )
ถ้าเราไม่หิว ขอให้ถามพระเจ้าว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

2.3 เชื่อว่าพระเจ้าจะตรัสบางสิ่งแก่เราผ่านทางพระคัมภีร์ ( มธ. 5: 6 )
“บุคคลผู้ใดหิวกระหายความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้เขาอิ่มบริบูรณ์ ” (มธ. 3: 6 )
อ่านด้วยท่าทีที่พึ่งพระวิญญาณ
“สิ่งสารพัดที่ท่านอธิษฐาน ขอด้วยความเชื่อท่านจะได้” (มธ.21: 22 )

2.4 พร้อมฟังพระคัมภีร์ หลายคนไม่เข้าใจพระคัมภีร์ เพราะมิได้มีใจอยากเชื่อฟังปฎิบัติตาม (สดุดี 119:34) ท่าทีเช่นกษัตริย์ ดาวิด ทำให้เราเข้าใจ คือ เราอยากทำตามทุก ๆ สิ่งที่เราได้รับฟัง

3.วางแผนการณ์แน่นอนในการอ่านพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ถูกเขียนออกมามทีละเล่ม เราควรอ่านเป็นเล่ม ๆ เริ่มด้วยพระกิตติคุณ คือ มัทธิว ,มาระโก ,ลูกา หรือ ยอห์น จากนั้นเป็นจดหมายฝากสั้น ๆ 1 ,2 เทสะโลนิกา แล้วอ่านพระคัมภีร์เดิม เริ่มจากสดุดี ,สุภาษิต อย่างไรก็ตามถ้าท่านรู้สึกว่าพระเจ้านำให้อ่านเล่มอื่น ก็ให้เราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง

4.การอ่าน อ่านไปพร้อมกับการคิดใคร่ครวญ (สดุดี 1: 2-3 )

4.1 มีสมุดบันทึกส่วนตัวสักเล่มหนึ่ง

4.2 ขณะที่อ่าน อ่านช้า ๆ ขอให้พระวิญญาณตรัสกับท่าน (สดุดี 119 :18 ) อ่านด้วยท่าทีอธิษฐาน “ขอเบิกตาข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเห็นสิ่งมหัศจรรย์จากพระธรรมของพะรองค์”

4.3 อ่านทุกตอน ทุกข้อไม่เลือก

4.4 โปรดระลึกว่า พระเจ้าตรัสอย่างไร พระองค์ทรงหมายความอย่างนั้น

4.5 ถ้าข้อใดไม่เข้ากับความหมายในข้อื่นไม่พยายามบังคับ เราอาจไม่เข้าใจให้ละไว้ก่อน ค้นคว้าจนกว่าเราได้รับคำตอบจากพระคำข้ออื่นที่ดี มีเหตุผลสอดคล้องกัน จึงตัดสินใจ

4.6 ถ้าอ่านจบไป1 บท ยังมได้รับอะไรพิเศษ อ่านอีกรอบ ขอพระเจ้าสอนบางอย่างแก่เรา

4.7 บันทึกสิ่งที่พระเจ้าสอนในสมุดบันทึก

4.8 เรียนในการนำพระคำมาภาวนาในจิตใจทั้งกลางวัน กลางคืน (ยชว. 1: 8 , สดด. 1: 2-3)

4.9 ตั้งคำถามว่า พระคัมภีร์ตอนที่อ่านนี้เรานำไปปฎิบัติอย่างไร นำความคิดออมาเป็นการกระทำอย่างไรบ้าง อะไรคือบทเรียนสำหรับตัวเราเอง

5. โครงการณ์อ่านพระคัมภีร์อย่างต่อเนื่อง
โครงการณ์นี้กระจายการอ่านพระคัมภีร์ของเราออก ทำให้เราสามารถอ่านได้จบใน 1 ปี โดยอ่านเช้าและเย็น หรือในเวลาที่จัดไว้