เมื่อวันที่ 18-21 ตุลาคม 2016 ยุวชนคริสตจักรใจสมานได้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายผู้นำอนุชนพสท. ชื่อค่าย “Follow Me 2.2 Surfer” ที่ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ล้านนา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเนื้อหาในค่ายได้มีการจัดกิจกรรมและ Work shop มากมาย รวมถึงการแบ่งปันคำเทศนาจากอาจารย์หลายท่านไ ด้แก่ ศจ.ดร.สุรศักดิ์ ศิษย์ธนานันท์ ,ศจ.วุฒินันท์ ปุริตัง และ Mr.Andrew Stockley เนื้อหาในค่ายเปรียบผู้เชื่อเป็นเหมือนนักโต้คลื่น และในค่ายFollow me คือโรงเรียนสร้างนักโต้คลื่นของพระเจ้า เป็นการฝึกความแข็งแรง และฝึกสมดุลฝ่ายวิญญาณ เพื่อเตรียมรับมือกับคลื่นของโลกนี้ เปรียบได้กับความบาป การล่อลวงของโลก ซึ่งถ้านักโต้คลื่นไม่ได้รับการฝึกที่ดี อาจจมลงในคลื่นของโลกนี้ได้ ซึ่งกิจกรรม Work shop ต่างๆรวมถึงคำเทศนาในค่าย ล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยในการฝึกฝนและพัฒนาให้น้องๆอนุชนพสท.เป็นสุดยอดนักโต้คลื่นของพระเจ้าได้

อีกหนึ่งกิจกรรมในค่ายคือการเคลื่อนออกไปสู่คลื่นของพระเจ้าคือการออกไปทัศนศึกษาตามรอยมิชชันนารีซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ นายแพทย์เจมส์ แมคเคน ซึ่งเป็นมิชชันนารีที่ได้ก่อตั้งสถาบันดูแลและฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคเรื้อนในประเทศไทย สิ่งที่ท่านได้ทำถือได้ว่ามีอิทธิพลต่อสถาบันสุขภาพ และการก่อตั้งคริสตจักรมากมายในจังหวัดเชียงใหม่ และอีกสถานที่หนึ่งคือ คริสตจักรสุริยะชัยธรรม ซึ่งเป็นที่ระลึกถึง ท่านหนานชัย และน้อยสุริยะ ซึ่งเป็นคริสเตียนยุคแรกๆที่ได้ยืนหยัดในความเชื่อในพระเยซูคริสต์จนเป็นเหตุให้ถูกสั่งประหารชีวิตเพราะเหตุความเชื่อของท่านทั้งสอง การไปเยือนสถานที่สำคัญในครั้งนี้ทำให้น้องๆอนุชน ได้ตระหนักถึงการอุทิศตัวและเสียสละของมิชชันนารีและผู้เชื่อในยุคเริ่มแรก ที่ได้ทุ่มเทกำลัง แรงกายเพื่องานของพระเจ้าอย่างมากมาย

คำพยานของน้องมายด์ น.ส.ณัชณิชา แก้วโกมลมาลย์ จากการที่ได้เข้าร่วมค่าย ทำให้ได้รู้ถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่พระองค์ทรงปกป้องเราจากคลื่นต่างๆที่เข้ามาพระเจ้าอยากให้เราเป็นสุดยอดนักโต้คลื่นที่จะโต้คลื่นอย่างสง่างาม ชีวิตของเรามีทั้งคลื่นลูกเล็กและคลื่นลูกใหญ่ แต่ทุกสิ่งล้วนเป็นแผนการของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราทำให้ชีวิตของเราเข้มแข็งและเติบโตขึ้น ซึ่งเราสามารถโต้อยู่เหนือคลื่นได้โดยความเชื่อและความกล้าหาญ แต่จากค่ายนี้ก็ทำให้รู้ว่าคลื่นบางอย่างเราก็ไม่ควรโต้ แต่ควรที่จะหลีกหนีจากคลื่นนั้น เพราะคลื่นนั้นอาจดูดเราให้หายไปได้โดยที่เราไม่รู้ตัว เหมือนกับความผิดเล็กๆถ้าเราปล่อยให้มันเกิดขึ้นกับเราและปล่อยผ่านไป วันหนึ่งเราก็จะจมอยู่กับสิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัวจนกลายเป็นความผิดที่ลึกลงจนยากที่จะออกมา แต่ถึงแม้เราจะจมพระเจ้าก็จะทรงช่วยเรา ถ้าเรายอมให้พระองค์ช่วย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่เราจะโต้คลื่นของโลกนี้เป็นนักโต้คลื่นที่อยู่บนคลื่นขอพระเจ้าคือการยึดพระคำของพระเจ้าไว้โดนรักษาความสมดุลของชีวิตเราจะทำให้เราเป็นสุดยอดนักโต้คลื่นที่เคลื่นไปกับคลื่นของพระเจ้า

คำพยานของน้องจาจ้า น.ส.ธัญวรัตน์ สาแก้ว การจะทำสิ่งใดๆก็ตามให้เราใช้ความเชื่อที่มาจากพระเจ้า ถ่อมใจของเราลงและมอบชีวิตเราไว้กับพระเจ้า และพระเจ้าจะทรงใช้งานเราในการทำกิจของพระองค์ ให้เราขอความกล้าจากพระเจ้า มีครั้งหนึ่งหนูเคยมีกาสรับใช้พระเจ้าด้วยการเป็นต้นเสียงนำนมัสการ แต่ตอนนั้นปราศจากความกล้าที่จะร้องเพลงต่อหน้าคนเยอะๆ เลยไม่มีความสุขเลยบนเวที แต่หลังจากกลับจากค่าย Follow me 2.2 Surfer หนูก็มีโอกาสได้เป็นต้นเสียงนำนมัสการอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งแรก หนูขอความกล้าและความมั่นใจที่มาจากพระเจ้า และเมื่อหนูขึ้นไปอยู่บนเวที หนูไม่สนใจสิ่งใดนอกจากพระเจ้าเพราะนี่คือการนมัสการ หนูได้รู้จักคำว่านมัสการอย่างแท้จริงการนมัสการไม่ใช้แค่การปรบมือและร้องเพลงแต่..จิตใจอยู่ที่ไหนไม่รู้ แต่คือการที่มือไม่ต้องปรบ ปากไม่ต้องร้องเพลงก็ได้ แต่จิตใจจดจ่ออยู่ที่พระเจ้านั่นคือความหมายของคำว่านมัสการสำหรับหนู