กระผม นายสว่าง แสงเดือน มีเรื่องที่อยากจะขอบพระคุณพระเจ้า เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ขณะที่ผมกำลังเตรียมตัวออกไปทำงานพร้อมกับทางบ้านตามปกติในตอนเช้ามืด ขณะนั้นผมรู้สึกเหมือนต้องการจะถ่ายท้อง ขณะที่ผมกำลังอยู่ในห้องน้ำก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรจนกระทั่งเมื่อตอนก้มลงไปดูจึงเห็นเลือดจำนวนมากอยู่ในโถ ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบว่าสิ่งนี้มันเกิดอะไรขึ้น และเกิดขึ้นสองครั้งโดยไม่ได้มีอะไรบ่งบอกก่อนหน้านั้นเลย
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั่นไม่ใช่เรื่องปกติแน่ๆ ขณะนั้นผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ นอกจากการอธิษฐานขอการช่วยเหลือจากพระเจ้า และขับรถพาครอบครัวไปส่งที่ร้านเพื่อค้าขายและตั้งใจว่าจะกลับบ้านมาอธิษฐานและพักผ่อนแต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้สงบลงเลย
ผมเสียเลือดในขณะที่ไปส่งครอบครัวที่ร้านอีกครั้ง ในห้องน้ำต่างสถานที่ ขณะนั้นผมเองก็ยังอธิษฐานอยู่ตลอดเวลา และร้องเพลงนมัสการว่า “ไม่มีสิ่งใดเกินพระเยซู และฤทธิ์อำนาจมีในโลหิตพระคริสต์” และในขณะขับรถกลับบ้านผมยังมีความเชื่อที่คิดว่าจะกลับมาบ้านและไปที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง แต่ขณะขับรถกลับบ้านเลือดก็ทะลักออกมาอีกสองครั้งในรถ นั่นทำให้ผมรู้สึกหนักขึ้นอีก
ขณะที่ผมกลับถึงบ้าน ผมพยายามดึงตัวเองออกจากรถ ขณะนั้นยังมีอาการเสียเลือดอยู่ ผมเปิดฝักบัวรดตัวเพื่อให้ร่างกายเย็นลง และขณะนั้นลูกชายของผมได้กลับมาถึงบ้านและพาผมไปยังโรงพยาบาล ขอบคุณพระเจ้าที่ผมเสียเลือดไปมาก แต่ขณะที่ผมเดินทางไปโรงพยาบาลยังมีเรี่ยวแรงพอที่จะคุยกับลูกและบอกทางให้กับคนขับแท็กซี่อยู่
( ภาพบน – ผมถ่ายรูปด้วยตนเองขณะอยู่บนรถแท๊กซี่ ส่วนภาพล่าง เป็นเลือดบางส่วนที่ถ่ายออกมาเป็นจำนวนมาก ผมยกกล้องขึ้นเก็บภาพเหล่านี้ไว้ และเขียนบันทึกสด ๆ ระหว่างเกิดเหตุการณ์ทุกระยะ เพราะมั่นใจว่าจะต้องกลับมาเป็นพยานถวายเกรียติพระองค์
ผมถูกส่งตัวขึ้นเตียงส่งมาที่ห้องพักผู้ป่วย เพื่อตรวจเอ็กซ์เรย์และตรวจดูอาการขั้นต่อไป ขณะนั้นผมเองมั่นใจแล้วว่าพระองค์ทรงรักษาแล้วจริงๆ เพียงแต่ความเชื่อของมนุษย์นั้นไม่สามารถเข้าใจได้ว่าการรักษาของพระองค์นั้นรวดเร็วแค่ไหน ผมได้แต่รออยู่ที่เตียงสรรเสริญพระเจ้า ณ ที่นั่น และร้องเพลง ไม่มีสิ่งใดเกินพระเยซู และหลายเพลงที่กล่าวถึงฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า
เพื่อนๆร่วมห้องพยาบาลห้องเดียวกับผมต่างก็สงสัยว่าขณะที่ผมอยู่ที่เตียงทำไมถึงดูมีสันติสุขทั้งๆที่ ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ค่อยเป็นที่ซึ่งน่าจะมีความสุขเท่าไหร่นัก แต่ทำไมผมจึงออกไปร้องเพลงอยู่ที่ระเบียงได้
แม้กระทั่งวันอาทิตย์ผมไม่ได้ไปโบสถ์ แต่ขณะเดียวกันกับที่โบสถ์นมัสการ ครอบครัวผมใช้โทรศัพท์มือถือโทรเข้ามาตลอดช่วงนมัสการ ทำให้ผมได้สรรเสริญพระองค์ไปด้วย แม้จะอยู่ที่โรงพยาบาลก็ตาม ผมสรรเสริญพระเจ้าขณะอยู่ที่ระเบียงห้องพักที่โรงพยาบาล แม้ผมจะไม่อยากนมัสการพระองค์อยู่ที่นี่ แต่ผมก็ยังมีโอกาสได้นมัสการพระองค์
แต่พอถึงตอนเย็นวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน เวลาประมาณ 1-2 ทุ่ม อาการถ่ายเป็นเลือดก็เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 3 ในโรงพยาบาล ทำให้ทุกคนในครอบครัวรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีก ผมจึงบอกให้ภรรยาและลูกชายกลับบ้าน เมื่อเขากลับบ้านแล้ว ผมก็เข้าห้องน้ำชำระตัวด้วยน้ำฝักบัวและอธิษฐานกับพระเจ้าว่าน้ำคือความหมายของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผมขอพระเจ้าทรงเจิมผมตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าและขอการรักษาจากพระองค์อีกครั้ง ขอบคุณพระเจ้าเมื่อออกจากห้องน้ำ ทุกอย่างในร่างกายก็กลับสู่การเป็นปกติทันที โดยพระคุณพระองค์ไม่มีเลือดไหลอีกเลย
เนื่องจากผมอยู่ในทีมนมัสการคริสตจักรใจสมาน รามคำแหง 68 ผมได้รับการอธิษฐานเผื่อจากพี่น้องที่นั่น และที่สำคัญอาทิตย์หน้าพี่น้องมีความเชื่อว่าผมจะได้รับการรักษาและมาขอบคุณพระเจ้าที่โบสถ์ จึงได้เตรียมเพลงพิเศษเพื่อผมได้ร้องสรรเสริญขอบพระคุณพระเจ้าด้วย
วันที่ผมออกจากโรงพยาบาลคือวันพุธที่ 30 มิถุนายน 2010 ตอนเที่ยง ขอบคุณพระเจ้าทั้งๆที่ก่อนหน้านี้หมอบอกว่าผมจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลราวๆเกือบสองอาทิตย์ แต่หมอบอกกับผมว่าผมควรกลับไปที่บ้าน และรอเรียกตรวจอีกครั้งเนื่องจากหมอไม่เห็นอาการผิดปกติในตัวผมเลย และแน่นอน นั่นหมายถึงว่าอาทิตย์นี้ผมจะได้กลับไปนมัสการพระองค์อีกครั้ง และเป็นพยานกับพี่น้องคริสเตียนถึงการรักษาที่มาจากพระองค์
ผมได้มีโอกาสทั้งเป็นพยานและร้องเพลงพิเศษขอบคุณพระเจ้าผู้รักษาชีวิตของผม หลังจากวันอาทิตย์หมอเรียกผมไปตรวจเอ็กซ์เรย์พร้อมกับการฉีดแป้งเข้าไปเพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียดอีกครั้ง แต่เมื่อหมอวินิจฉัยแล้วก็สร้างความประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า ผมไม่มีอาการข้างเคียง หรือความผิดปกติเลย ใครกันเล่าที่รักษาผมจากอาการเสียเลือดที่ค่อนข้างจะร้ายแรงขนาดนั้นกันนะ?