สาส์นศบ. 30 ตุลาคม 2016
“เพื่อคนทั้งปวงจะได้ถวายเกียรติแด่พระบุตรเหมือนที่เขาถวายเกียรติแด่พระบิดา ผู้ใดไม่ถวายเกียรติแด่พระบุตร ผู้นั้นก็ไม่ถวายเกียรติแด่พระบิดาผู้ทรงใช้พระบุตรมา”(ยน.5:23)
พวกยิวในสมัยนั้นไม่ยอมรับพระเยซูคริสต์ว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า กล่าวหาว่าพระเยซูดูหมิ่นพระเจ้าพระบิดา และมุ่งที่จะจับผิดและจะฆ่าพระองค์ พวกผู้นำศาสนายูดาถือว่าพระองค์นำคำสอนที่เป็นอันตรายมาเผยแพร่ เป็นผู้ทำลายธรรมบัญญัติและลบล้างธรรมเนียมปฏิบัติของบรรพบุรุษ กล่าวหาว่าพระองค์ขับผีออกด้วยอำนาจของหัวหน้าผี เป็นการดูหมิ่นไม่ให่เกียรติกับพระองค์ การทำเช่นนั้นของพวกเขาก็เท่ากับกำลังดูหมิ่นพระบิดาผู้ทรงใช้พระบุตรเข้ามาในโลกเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดจากความพินาศ การที่จะถวายเกียรติแด่พระบิดาต้องถวายเกียรติแด่พระบุตรด้วย เพราะพระบุตรและพระบิดาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
การที่เราทั้งหลายถวายเกียรติแด่พระเยซูคริสต์เป็นการแสดงออกถึงการถวายเกียรติแด่พระบิดาในเวลาเดียวกัน คริสตจักรต้องยกย่องพระเยซูคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า สิ่งที่แสดงออกได้ดีที่สุดในการยอมรับพระคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าคือการเชื่อฟังพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเราเองไม่อยากจะทำตามคำสั่งสอนของพระองค์ แต่เราก็ต้องเอาชนะใจตัวเองและทำตามด้วยใจเชื่อฟัง
ดังนั้นคุณสมบัติที่สำคัญยิ่งในการเป็นสาวกของพระองค์คือการเอาชนะใจตนเอง(มธ.16:24) ทุกคนจะพบการทดสอบในเรื่องนี้จงพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์ในเรื่องการบังคับใจตนเอง เพราะหนึ่งในผลของพระวิญญาณเป็นเรื่องนี้(กท.5:23) แล้วพระองค์จะช่วยให้ท่านเอาชนะใจตนเองได้