ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการรับใช้เพื่อให้ข่าวประเสริฐได้แพร่กระจายไปสู่คนในสังคมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในคริสตจักรยุคแรก ผู้เชื่อทุกคนที่ความกระตือรือร้นในการเป็นพยานถึงความจริงแห่งข่าวประเสริฐ ไม่ว่าจะทำงานอยู่ในอาชีพใดก็ตาม ทุกคนถือว่าเป็นหน้าที่รับผิดชอบที่จะต้องประกาศเป็นพยานเรื่องความรอดในพระเยซูคริสต์ พร้อมที่จะเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือ รับการเปลี่ยนแปลงใหม่เมื่อได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิต ไม่มีใครคิดว่านี่เป็นหน้าที่ของศิษยาภิบาล เป็นหน้าที่ของบรรดาผู้รับใช้เต็มเวลาในคริสตจักร
เมื่อสมาชิกทุกคนทำหน้าที่ในการเป็นพยานและชักชวนญาติมิตรของตน เพื่อนบ้านของตนให้มารู้จักพระเยซูคริสต์ จำนวนผู้เชื่อก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในคริสตจักร มีการแต่งตั้งศิษยาภิบาลและผู้รับใช้เต็มเวลาให้ทำหน้าที่ต่างๆในคริสตจักร สมาชิกจึงลดบทบาทในการประกาศเป็นพยานเพื่อพระคริสต์เพราะคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ของตนเองอีกต่อไป แต่เป็นหน้าที่ของศิษยาภิบาลและผู้รับใช้เต็มเวลา ทำให้กำลังส่วนใหญ่ในคริสตจักรหยุดนิ่งไม่ขับเคลื่อนอีกต่อไป การเพิ่มพูนของคริสตจักรจึงช้าลง และหลายแห่งก็หยุดนิ่ง บางแห่งสมาชิกก็ถดถอยลง
จำเป็นที่สมาชิกในคริสตจักรต้องเข้าใจว่าการรับใช้พระเจ้าเป็นหน้าที่ของทุกคน แต่ละคนเป็นเหมือนอวัยวะในร่างกาย มีหน้าที่มีบทบาทในการรับใช้เพื่อเสริมสร้างคริสตจักรให้เจริญเติบโต การมาร่วมในโบสถ์เพื่อฟังเทศนาในวันอาทิตย์เท่านั้นโดยไม่มีส่วนร่วมในการรับใช้กับคนอื่นๆในคริสตจักร ก็เหมือนผู้ที่มาสังเกตการณ์ มาเป็นผู้ชมเท่านั้น ขอหนุนใจให้ทุกคนได้ทำหน้าที่ในการเป็นพยานชักชวนคนรอบข้างให้มารู้จักพระเยซูคริสต์ด้วย