วันนี้เป็นวันระลึกถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์(วันอีสเตอร์)ซึ่งเป็นความจริงในประวัติศาสตร์ที่ยืนยันว่าพระเยซูคริสต์คือพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าที่เสด็จมาเพื่อสำแดงพระบิดาและมาไถ่บาปมนุษย์ด้วยการสละชีวิตสิ้นพระชนม์บนกางเขนเรื่องนี้ยังเป็นหลักความจริงที่สำคัญของข่าวประเสริฐที่ต้องประกาศออกไปทั่วโลกทุกคนที่เชื่อจะได้รับความรอด “คือถ้าท่านจะยอมรับด้วยปากของท่านว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและเชื่อในใจว่าพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากความตายท่านจะรอด”(รม.10:9)
กลุ่มบุคคลที่ยอมรับยากที่สุดว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าคือบรรดาน้องๆของพระเยซูที่เติบโตมาด้วยกันในเมืองนาซาเร็ธแต่ยากอบและยูดาซึ่งเป็นน้องชายของพระเยซูได้ยอมรับเมื่อพวกเขาได้เห็นพระเยซูเป็นขึ้นจากความตายมีคนพยายามหาเหตุผลเพื่อมาหักล้างความจริงดังกล่าวตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมาแต่ความจริงดังกล่าวก็ยังคงอยู่และแพร่ขยายออกไปทั่วโลกเป็นที่ยอมรับของคนมากกว่า 2,000 ล้านคนในทุกวันนี้คริสตชนทั่วโลกได้เฉลิมฉลองวันสำคัญยิ่งนี้ด้วยความชื่นชมยินดีและด้วยความหวังใจ เพราะการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นหลักประกันของผู้เชื่อทุกคนว่าในอนาคตเมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่งทุกคนที่เชื่อในพระองค์จะได้รับกายใหม่เหมือนกายของพระองค์ที่เป็นขึ้นจากความตาย” ในชั่วขณะเดียว ในพริบตาเดียว เมื่อเป่าแตรครั้งสุดท้ายเพราะว่าจะมีการเป่าแตรและพวกที่ตายแล้วจะถูกทำให้เป็นขึ้นโดยปราศจากความเสื่อมสลายแล้วเราจะถูกเปลี่ยนใหม่”(1คร.15:52)
ขอให้เราทุกคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ยึดมั่นในความหวังแห่งศักดิ์ศรีนี้ไว้ให้ดีอย่าให้ความทุกข์ยากลำบากในโลกนี้มาทำให้ท่านต้องท้อแท้ใจและละทิ้งความเชื่อในพระเยซูคริสต์ไปเสียอย่าลืมว่าผู้เชื่อในยุคก่อนๆก็ยืนหยัดในความเชื่อแม้ต้องผ่านความทุกข์ลำบากมากมาย อีกไม่นานพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมา จงตื่นตัวและเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่สง่าราศีอันยิ่งใหญ่ที่ทรงจัดเตรียมให้ผู้เชื่อทุกคน