สาส์นศบ.(2มิย.)
การฝึกตนในทางพระเจ้าที่สำคัญคือการใช้ของประทานหรือความสามารถที่มีอยู่ในการรับใช้ผู้อื่น พระเยซูได้ประกาศวัตถุประสงค์ของพระองค์ในการดำเนินชีวิตในโลกนี้ “อย่างที่บุตรมนุษย์ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่ท่านมาเพื่อจะปรนนิบัติเขา–“(มธ.20:28) พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างแก่พวกเราในการฝึกตนในทางของพระเจ้า อ.เปาโลได้หนุนใจทิโมธีเกี่ยวกับเรื่องของประทานที่มีอยู่ในตัวเขา “อันของประทานของพระเจ้าซึ่งมีอยู่ในท่าน โดยที่ข้าพเจ้าได้เอามือวางบนท่านนั้น ขอเตือนว่าท่านจงกระทำให้รุ่งเรืองขึ้น”(2ทธ.1:6)
แท้จริงพระเจ้าได้ประทานความสามารถบางอย่างให้กับผู้เชื่อแต่ละคน และพระองค์ทรงคาดหวังให้ทุกคนได้มีส่วนในการรับใช้ตามความสามารถที่มีอยู่นั้น “และเราทุกคนมีของประทานที่ต่างกัน ตามพระคุณที่ได้ประทานให้แก่เรา–“(รม.12:6) สิ่งที่ปิดกั้นผู้เชื่อจำนวนมากในการใช้ของประทานคือ ความคิดว่าตนเองไม่มีของประทานหรือความสามารถอะไรที่จะรับใช้ ดังนั้นจึงขออยู่เฉยๆ ไม่ขอมีส่วนร่วมในการรับใช้อะไร อีกประการหนึ่งความกลัวที่เกิดขึ้นในใจ กลัวว่าจะทำได้ไม่ดี กลัวว่าจะถูกต่อว่า กลัวว่ารับใช้แล้วจะมีปัญหาต่างๆตามมา ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ ขออยู่เฉยๆไม่รับใช้ดีกว่า
การไม่รับใช้ตามของประทานก็เหมือนการเอาของดีที่มีประโยชน์ไปฝังดินไว้ วันหนึ่งเมื่อผู้เชื่อต้องรายงานตัวต่อพระเยซูคริสต์ คนที่ไม่รับใช้ก็คงต้องลำบากใจที่จะรายงานกับพระองค์ คงไม่อาจคาดหวังที่จะได้รับคำชมจากพระองค์ ดังนั้นจงสำรวจตนเองว่าสามารถรับใช้ในด้านใดได้ จงสลัดความกลัวออกไปและเริ่มลงมือรับใช้พระเจ้าในงานที่ท่านทำได้ นี่คือการฝึกตนในทางพระเจ้า