“ท่านจงทิ้งตัวเก่าของท่าน ซึ่งคู่กับวิถีชีวิตเดิมนั้นเสีย อันจะเสื่อมเสียไปสู่ความตายตามตัณหาอันเป็นที่หลอกลวง และจงให้วิญญาณจิตของท่านเปลี่ยนใหม่ และให้ท่านสวมสภาพใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง”(อฟ.4:22-24)
กระบวนการในการทิ้งต้วเก่าและการสวมสภาพใหม่ต้องพึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานภายในจิตใจ และพึ่งพาพี่น้องคริสเตียนที่อยู่รอบข้างในการหนุนจิตชูใจอย่างต่อเนื่อง ถ้าผู้เชื่อคลุกคลีชีวิตอยู่ใกล้ชิดท่ามกลางคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า ท่ามกลางเพื่อนฝูงที่ดำเนินตามกิเลสตัณหา โอกาสที่ผู้เชื่อคนนั้นจะทิ้งชีวิตเก่าก็จะยากมาก ถึงแม้ว่าจะได้รับชีวิตใหม่ในพระคริสต์แล้ว เพราะอิทธิพลของคนรอบข้างจะชักจูงให้เขากลับไปสู่พฤติกรรมแบบเก่า ในที่สุดเขาก็จะหลุดจากชีวิตใหม่กลับคืนสู่ชีวิตเก่า
ดังนั้นกระบวนการทิ้งตัวเก่าจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากกลุ่มผู้เชื่อที่สร้างสัมพันธ์และชักจูงไปในทางของพระเจ้า ต้องโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมเสียใหม่ บ่อยครั้งเป็นเหมือนการดึงกันไปมาระหว่างชีวิตเก่ากับชีวิตใหม่ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของชีวิตผู้เชื่อใหม่ที่ยังไม่มีรากแห่งความเชื่อที่มั่นคงในพระคริสต์ กลุ่มผู้เชื่อเก่าสองสามคนต้องช่วยกันติดตามให้ใกล้ชิดและชักนำเข้าร่วมกลุ่มพัฒนาชีวิต(กลุ่มเซล)เพื่อจะทำให้เขาได้รับการฟูมฟักในกระบวนการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่การเปลี่ยนชีวิตของแต่ละคนหมายถึงการขยายแผ่นดินของพระเจ้าออกไป