คริสเตียนเมืองโครินธ์มีภูมิหลังมาจากชีวิตที่กินดื่มและหาความสำราญอย่างมีอิสระเสรีเต็มที่ เน้นเรื่องเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา เมื่อคำสอนของอ.เปาโลเน้นว่าพระคริสต์ได้ทำให้เราเป็นเสรีชนแล้ว พวกเขาก็ชอบใจและคิดว่าสามารถทำอะไรก็ได้ เพราะเราไม่ได้ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้พระบัญญัติอีกต่อไปเราอยู่ภายใต้พระคุณของพระเจ้าในพระคริสต์ ทำให้เรามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ แต่อ.เปาโลได้สอนว่าเราต้องใช้เสรีภาพเพื่อทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำสิ่งที่ทำให้เจริญขึ้น (1คร.10:23) และไม่ใช่ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองเท่านั้น ต้องทำสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อื่นด้วย(1คร.10:24)

ชีวิตในพระคริสต์ทำให้มีเสรีภาพก็จริงอยู่ แต่ไม่ใช่เสรีภาพที่จะทำตามกิเลสตัณหา ตามเนื้อหนัง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วก็จะทำให้กลับไปเป็นทาสของความบาปอีก วัตถุประสงค์ของชีวิตในพระคริสต์คือการมีชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เสรีภาพที่มีอยู่ก็เพื่อทำความดีโดยไม่ถูกปิดกั้นด้วยพระบัญญัติ พวกฟาริสีกล่าวหาพระเยซูว่าทำผิดกฎวันสะบาโตเพราะพระองค์รักษาคนง่อย คนพิการต่างๆในวันสะบาโต
แต่พระองค์ไม่ได้ถูกจำกัดโดยกฎวันสะบาโตที่พวกฟาริสีกำหนดขึ้น พระองค์ทำการดีเพื่อช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก นี่แหละคือการใช้เสรีภาพที่ถูกต้องตามน้ำพระทัยพระเจ้า

คนรุ่นใหม่เน้นเสรีภาพที่จะออกนอกกรอบที่คนรุ่นก่อนกำหนดให้ เขาอยากจะทำสิ่งใหม่ๆที่แตกต่างจากเดิม เป็นตัวของตัวเอง ไม่ถูกตีกรอบโดยพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่หลักการที่อ.เปาโลให้ไว้คือต้องทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นโทษ และต้องทำในสิ่งที่จะทำให้เกิดการ
พัฒนาที่ดีขึ้น เจริญขึ้น ไม่ใช่แย่ลงหรือเสื่อมลง ขอให้คิดถึงการถวายเกียรติแด่พระเจ้าในทุกสิ่งที่เราทำ