“เมื่อพระองค์นั้นเสด็จมาแล้ว พระองค์จะทรงกระทำให้โลกรู้แจ้งในเรื่องความผิด ความชอบธรรม และการพิพากษา”(ยน.16:8)
พระเยซูตรัสถึงงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงกระทำในใจของมนุษย์ ซึ่งจะชักนำให้มนุษย์มาสู่การสารภาพบาปและกลับใจใหม่ เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ แต่เรื่องนี้จะเกิดควบคู่กับการประกาศข่าวประเสริฐ คือผู้เชื่อต้องร่วมมือกันในการเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์เพื่อบอกความจริงถึงการทนทุกข์ การสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณจะทำงานในใจผู้ฟังให่เกิดความสำนึกผิดและความเกรงกลัวต่อการพิพากษาของพระเจ้า และเกิดความเชื่อว่าพระเยซูคริสต์คือผู้ที่จะประทานความรอดพ้นบาปให้ได้ เรื่องนี้พระเยซูได้ตรัสไว้ในยอห์น 15:26-27 ” แต่เมื่อองค์พระผู้ช่วยที่เราจะใช้มาจากพระบิดาหาท่านทั้งหลาย คือพระวิญญาณแห่งความจริง ผู้ทรงมาจากพระบิดานั้น ได้เสด็จมาแล้ว พระองค์ก็จะทรงเป็นพยานให้แก่เรา และท่านทั้งหลายก็จะเป็นพยานด้วย เพราะว่าท่านได้อยู่กับเราตั้งแต่แรกแล้ว”

การเป็นผู้รับมอบฉันทะที่ดีประการหนึ่งคือการเป็นพยานถึงข่าวประเสริฐเรื่องการไถ่บาปโดยพระคริสต์ บทบาทอีกประการหนึ่งของพระวิญญาณบริสุทธิ์คือการประทานฤทธิ์เดชให้ผู้เชื่อในการเป็นพยานฝ่ายพระคริสต์ จะเห็นว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงกระทำกิจเพื่อนำมนุษย์มาถึงความรอดในพระคริสต์ และทรงกระทำกิจเพื่อให้ผู้เชื่อเกิดผลในการนำคนบาปให้มาถึงความรอด ดังนั้นการทำหน้าที่ในการเป็นผู้รับมอบฉันทะที่ดีในการเป็นพยานเพื่อพระคริสต์ ผู้เชื่อทุกคนสามารถพึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตลอด เพราะพระองค์อยู่กับผู้เชื่อทุกคนเสมอ