“มีผู้ใดในพวกท่านทนทุกข์หรือ จงให้ผู้นั้นอธิษฐาน มีผู้ใดร่าเริงยินดีหรือ จงให้ผู้นั้นร้องเพลงสรรเสริญ”(ยก.5:13) นี่เป็นข้อความที่เขียนถึงคริสเตียน ขณะที่สมาชิกในคริสตจักรบางคนกำลังพบกับเหตุการณ์ที่ยากลำบาก นำความทุกข์ใจมาให้ ก็มีสมาชิกบางคนที่ได้รับพระพรจากพระเจ้า ได้รับคำตอบที่น่ายินดีในสิ่งที่รอคอยมานาน ทำให้เกิดความร่าเริงยินดีอย่างยิ่ง นี่เป็นปรากฎการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในสมัยก่อนและในสมัยปัจจุบัน มันเป็นความจริงของชีวิตในโลกนี้
พระคำพระเจ้าแนะนำให้เราจัดการกับตนเองเมื่อเราต้องพบความทุกข์โดยการอธิษฐาน “อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้า ซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์”(ฟป.4:6-7)
เมื่อท่านได้รับสิ่งดีๆหรืออยู่ในสถานการณ์ที่น่ารื่นเริงยินดีอย่างยิ่ง ท่านก็ตอบสนองด้วยการสรรเสิญยกย่องพระเจ้า “จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการและเพลงสรรเสริญ คือร้องเพลงสรรเสริญสดุดีจากใจของท่านถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า”(อฟ.5:19)
แม้เราจะเชื่อในพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตของเราในโลกนี้ก็มีทั้งวาระสดใสชื่นชมยินดี และวาระทุกข์โศกเสียใจ มีทั้งวันที่สมหวังและวันที่ผิดหวัง เราต้องตอบสนองต่ออารมณ์ต่างๆของเราด้วยการแสดงออกที่เหมาะสม เพื่อให้เราสามารถเดินหน้าต่อไปในเส้นทางของชีวิตบนโลกนี้ ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ เรายังคงยึดโยงจิตใจและความเชื่อของเราไว้กับพระเจ้าโดยไม่ปล่อยให้อารมณ์พัดพาเราออกห่างจากพระองค์