คนที่มองโลกในแง่ลบจะเห็นว่าทุกทางออกมีปัญหา ส่วนคนที่มองโลกในแง่บวกจะเห็นว่าทุกปัญหามีทางออก เมื่อเป็นเช่นนั้นคนที่มองโลกในแง่ลบก็จะจมอยู่กับปัญหา ชีวิตจะไม่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างที่ควรเพราะจดจ่อกับปัญหา ส่วนคนที่มองโลกในแง่บวกก็จะขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้า ไม่มัวจดจ่อกับปัญหาแต่มุ่งหาทางแก้ปัญหาด้วยความคิดสร้างสรรค์ สิ่งที่มนุษย์ต้องการเมื่อเผชิญปัญหาคือสติปัญญา ผู้มีสติปัญญาจะสามารถมองเห็นทางแก้ไข
พระคำของพระเจ้าหนุนใจให้ทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้า ” ถ้าผู้ใดในพวกท่านขาดสติปัญญา ก็ให้ผู้นั้นทูลขอจากพระเจ้า ผู้ทรงโปรดประทานให้แก่คนทั้งปวงด้วยพระกรุณา และมิได้ทรงตำหนิ แล้วผู้นั้นก็จะได้รับสิ่งที่ทูลขอ แต่จงให้ผู้นั้นทูลขอด้วยความเชื่อ อย่าสงสัยเลย—-“(ยก.1:5-6)
ในฐานะที่เป็นคริสเตียนเราควรมองโลกในแง่บวก มองด้วยสายตาแห่งความเชื่อในพระเจ้า อุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและการช่วยเหลือที่มาจากพระองค์ ทำให้ความเชื่อของเราเติบโตมากขึ้น มั่นคงมากขึ้นสิ่งที่ต้องขจัดออกไปจากจิตใจเมื่อเผชิญปัญหาคือความกลัวและความวิตกกังวล ถ้าไม่กำจัดออกไปมันจะกัดเซาะทำลายความเชื่อและไปเพิ่มขนาดของปัญหาอุปสรรคให้ใหญ่โตเกินความเป็นจริงในสายตาของเรา และทำให้เราลืมความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ดังนั้นเมื่อเจอปัญหาจงตั้งสติให้ดี คิดถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า และทูลขอสติปัญญาจากพระองค์ จงเชื่อมั่นในพระเจ้าว่าพระองค์จะนำท่านให้ชนะอุปสรรคปัญหาได้ ไม่มีอะไรที่ยากสำหรับพระเจ้า