การรับใช้ในงานพันธกิจการประกาศข่าวประเสริฐและการบุกเบิกก่อตั้งคริสตจักรเป็นงานรับใช้ที่ต้องพึ่งพาการอธิษฐานอย่างมากเพราะเป็นการทำสงครามฝ่ายวิญญาณกับมารซาตาน เนื่องจากคนที่ยังไม่เชื่อในพระคริสต์ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของความบาปและมารซาตาน การปลดปล่อยคนเหล่านี้ออกมาจำเป็นต้องใช้สิทธิอำนาจโดยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ลำพังสติปัญญาและความสามารถของมนุษย์ไม่เพียงพอในการต่อกรกับเหล่าวิญญาณชั่วที่ปกคลุมอยู่ในสังคม
เมื่อเป็นเช่นนั้นการอธิษฐานจึงเป็นจึงเป็นอาวุธสำคัญที่ต้องใช้ให้เกิดการทะลุทะลวงฝ่ายวิญญาณ พลังการอธิษฐานต้องมาจากกลุ่มผู้เชื่อในคริสตจักร ยิ่งมากยิ่งได้ผล พระเยซูได้เปรียบเทียบการปลดปล่อยคนจากอำนาจวิญญาณชั่วดังนี้ “หรือใครจะเข้าไปในเรือนของคนที่มีกำลังมากและปล้นเอาทรัพย์ของเขาอย่างไรได้ เว้นแต่จะจับคนที่มีกำลังมากนั้นมัดไว้เสียก่อน แล้วจึงจะปล้นทรัพย์ในเรือนได้”(มธ.12:29) ผู้มีกำลังมากคือวิญญาณชั่ว ทรัพย์ในเรือนคือจิตวิญญาณมนุษย์ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของมัน การจะช่วยนำคนออกมาได้ต้องผูกมัดวิญญาณชั่วเสียก่อน
คริสตจักรมีกุญแจแห่งแผ่นดินสวรรค์ที่ได้รับจากพระเยซูในการสั่งผูกมัดได้(มธ.16:18-19) ดังนั้นคริสตจักรต้องกล้าที่จะใช้สิทธิอำนาจที่ได้รับ สั่งผูกมัดวิญญาณชั่วในพื้นที่ที่มีการประกาศและการบุกเบิกก่อตั้งคริสตจักร เพื่อผู้คนในพื้นที่นั้นจะรับการเปิดตาใจและตอบสนองต่อข่าวประเสริฐด้วยความเชื่อ เราต้องทำงานเป็นทีมระหว่างผู้รับใช้ที่อยู่แนวหน้าในงานพันธกิจและคริสตจักรที่อยู่แนวหลังในการสนับสนุน ขอให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการอธิษฐานเผื่อผู้รับใช้ในงานพันธกิจ