22/01/2016

คริสเตียนมากมายชอบพระคำของพระเจ้าที่อ่านแล้วหนุนใจเช่น “อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่าขยาดเพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะหนุนกำลังเจ้า เออ เราจะช่วยเจ้า เออ เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันมีชัยของเรา” (อสย.41:10) อ่านแล้วทำให้จิตใจสบายขึ้น อารมณ์ดีขึ้น แต่สักครู่ทุกอย่างก็กลับไปเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีใดๆเกิดขึ้น ความชอบกับความเชื่อนั้นแตกต่างกัน ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง(ฮบ.11:1) จะเห็นว่าความเชื่อไม่ได้กล่าวถึงความชอบใจ แต่กล่าวถึงความมั่นใจ ดังนั้นบางคนมีแต่ความชอบใจ ความประทับใจ แต่ขาดความมั่นใจในพระสัญญาของพระเจ้า เมื่อเผชิญสถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่เอื้ออำนวย ความรู้สึกที่ชอบใจก็เปลี่ยนไป ความมั่นใจไม่ได้เกิดขึ้น ความเชื่อเกิดขึ้นเมื่อได้ยินพระคำพระเจ้าแล้วเกิดความมั่นใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่ว่าสถานการณ์ในสายตาที่มองเห็นจะเป็นเช่นใดก็ตาม ความมั่นใจก็ยังคงมีอยู่ในใจ ทำให้ยืนหยัดภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากได้ และในที่สุดก็สามารถฟันฝ่าผ่านพ้นไปได้ คริสเตียนต้องมีความเชื่อวางใจในพระคำของพระเจ้า อย่าเพียงแต่ฟังแล้วรู้สึกว่าดีเท่านั้น เพราะมันไม่เพียงพอ เราต้องเชื่อมั่น ยึดมั่นไว้ในใจด้วย สิ่งที่พระเจ้าตรัสนั้นเป็นความจริงที่แน่นอน หล่อเลี้ยงความเชื่อด้วยพระคำของพระเจ้า โดยการภาวนาใคร่ครวญพระคำทุกวัน ตอกย้ำในใจอย่างสม่ำเสมอ แล้วเราจะสามารถยืนหยัดและประสบชัยชนะในที่สุด