ข้าพเจ้าอ่านหนังสือเรื่อง “Preaching in Spirit” “การเทศนาในพระวิญญาณบริสุทธิ์” เขียนโดยอาจารย์เดนนิส คินลอว์ และข้าพเจ้าต้องกลับใจใหม่ในการรับใช้ ท่านเป็นอาจารย์ของข้าพเจ้า เคยมาเทศนาที่คริสตจักรเมืองไทยของเรา เป็นหนึ่งในสิบของโลกที่เชี่ยวชาญด้านพระคริสตธรรมภาคพันธสัญญาเดิม ท่านเล่าให้ฟังว่า ไม่ว่าท่านจะไปรับใช้พระเจ้าที่ใด เวลาใดภรรยาของท่านอธิษฐานเผื่อท่านตลอดจนการรับใช้จะสิ้นสุดลง เมื่อข้าพเจ้าคุยกับภรรยาของท่านนั้น ข้าพเจ้าได้สัมผัสกับความอ่อนโยน ความนุ่มนวล และความเข้าใจ ตลอดจนความจริงใจที่เป็นวิถีชีวิตของท่าน

คริสเตียนในสหรัฐอเมริการกำลังตื่นเต้นกับหนังสือ Healing of memory, Healing for damaged emotion, Put away childish things ของ ดร.เดวิด คริสเตียนหลายพันคนได้รับการบำบัดรักษาฝ่ายจิตใจให้หาย ท่านเล่าให้พวกนักศึกษาฟังว่า บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของท่านคือภรรยา ท่านเล่าว่าท่านเป็นคนมีแผลในใจ และมักจะใช้ภรรยาเป็นแพะรับบาป แต่ภรรยาของท่านอดทน และรักท่านอย่างแท้จริง จนกระทั่งพระเจ้ารักษาบาดแผลในชีวิตของท่าน และท่านได้ถูกพระองค์ใช้รักษาจิตใจของคริสเตียนหลายคน

ท่านเคยคิดบ้างไหมว่า ภรรยาของอาจารย์เปโตรมีบุคลิกภาพอย่างไร มีน้ำใจแบบไหน มีวาจาเช่นไร ผู้หญิงแบบไหนกันที่ติดตามชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ ของอาจารย์เปโตร ในยามที่ท่านติดตามพระเยซูอย่างใกล้ชิด ในยามที่ท่านปฏิเสธพระเยซู ภรรยาของเปโตรรู้สึกอย่างไร วันที่สามีของนางลุกขึ้นประกาศต่อคนสามพันคน นางรู้สึกอย่างไรวันที่อาจารย์เปโตรติดคุก นางรู้สึกอย่างไรเวลาสามีละทิ้งครอบครัวไปรับใช้พระเจ้าในที่ต่างๆ นางดีใจแค่ไหนเวลาอาจารย์เปโตรพานางไปเที่ยวอย่างที่อาจารย์เปาโลได้พูดอ้างอิงถึง ท้ายที่สุดนางรู้สึกอย่างไรเมื่อสามีสิ้นชีวิตลงในดินแดนซึ่งห่างไกล ข้าพเจ้าไม่รู้ว่านางเป็นใคร รู้สึกอย่างไร คิดอะไร แต่ข้าพเจ้ามั่นใจว่า นางเป็นผู้หญิงที่เป็นแบบอย่างที่ดีคนหนึ่งของภรรยาศิษยาภิบาล

คนหลายคนให้คำสรุปเกี่ยวกับภรรยาศิษยาภิบาลว่า “ผู้ชายครองโลก แต่ผู้หญิงครองใจผู้ชาย” บางคนก็ว่า “ลิ้นยาวสองนิ้วของภรรยา สามารถล้มสามีอกสามศอกได้” พระคริสตธรรมคัมภีร์กล่าวว่า สามีเป็นศีรษะของภรรยา ภรรยาที่ดีเป็นมงกุฎของสามี ข้าพเจ้าเองอยากจะสรุปสั้นๆว่า “ภรรยาดี ศิษยาภิบาลดัง ศิษยาภิบาลพังถ้าภรรยาเพี้ยน

ความยากลำบากของศิษยาภิบาลไทย

อาชีพศิษยาภิบาลถือว่าเป็นอาชีพที่เงินเดือนน้อยมาก สำหรับชาวอเมริกัน แต่โดยทั่วไป ศิษยาภิบาลชาวอเมริกันมีเงินเดือนอย่างต่ำที่สุด 30,000.00 บาท มีบ้านอยู่ มีการประกันสุขภาพ มีวันเวลาหยุดทุกปี คริสตจักรที่ดังมากๆ ศิษยาภิบาลสามารถลาพักร้อนได้ถึงสองเดือน ในประเทศไทยมีศิษยาภิบาลกี่คนที่เงินเดือนถึง 5,000 บาท ศิษยาภิบาลต้องอยู่โดยความเชื่อ และถ้าเขามีเงินมากเขาจะถูกสมาชิกสงสัย ถ้าเขาไม่ใคร่มีเงิน สมาชิกก็สงสัยอีกว่า ทำไมพระเจ้าไม่อวยพรเขา ถ้าเขาแต่งตัวดีเกินไป สมาชิกก็จะตำหนิว่าสำรวย ถ้าเขาแต่งตัวปอนปอน สมาชิกก็จะค่อนว่าแต่งตัวไม่สมฐานะ ถ้าเขาเทศนาดี สมาชิกจะเฉยๆ ถ้าเขาเทศนาไม่ดี สมาชิกจะต่อว่า สรุปว่าศิษยาภิบาลไทยนั้นตกอยู่ในฐานะที่จะถูกว่าทั้งขึ้นทั้งล่อง และที่แย่ที่สุดก็คือศิษยาภิบาลไม่รู้จะพูดให้ใครฟัง ถ้าพูดให้เพื่อนศิษยาภิบาลฟัง ก็ไม่ได้เพราะมีศักดิ์ศรี พูดแล้วเดี๋ยวก็ปิดกันให้แซดทั่ววงการ คนเดียวที่ศิษยาภิบาลหวังว่าจะฟังเขา ฟังด้วยความเห็นใจ เข้าใจและให้กำลังใจคือ ภรรยา

ข้าพเจ้าภูมิใจศิษยาภิบาลไทย เพราะงานของท่านเท่านั้น ซุปเปอร์แมนทำไม่ได้ ท่านต้องมีของประทานในการสอน การเทศนา การประกาศ มีของประทานในการหนุนใจ การให้คำปรึกษา มีความสามารถบริหารงานได้เก่งกว่าประธานคณะกรรมการบริหารของธนาคารใดๆ เพราะคริสตจักรไม่ใช่บริษัท ศิษยาภิบาลไทยต้องมีของประทานในการให้เพราะสมาชิกไทยเชื่อแบบไทยๆว่า ผู้ใหญ่ต้องมีน้ำใจต่อผู้น้อย ศิษยาภิบาลไทยต้องมีของประทานในการต้อนรับแขก เพราะธรรมเนียมไทยนั้นใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ บ้านของท่านจึงเป็นโรงแรมบางครั้ง เป็นภัตตาคารบางคราว และเปิดตลอดเวลา ท่านต้องมีผลของพระวิญญาณฯ ที่สำคัญคือ ความรัก และความอดทน เพราะสมาชิกมักมาหาโดยมิได้นัดหมาย และงานที่ทำอยู่ต้องชะงักตลอดเวลา ท่านต้องเผชิญภัยกับคนทุกชนิด ทั้งดีและบ้า เพราะสมาชิกบางคนชอบเป็นพยานกับคนโรคจิต เพราะคิดว่าเป็นคริสเตียนง่ายดี

ชีวิตของศิษยาภิบาลไทยเกี่ยวข้องกับสมาชิกเมื่อมีการเกิดการแต่งงาน การตาย ท่านมีถ้อยคำอันเหมาะสมกับผู้อื่น เหมาะสมกับกาลเทศะ แต่ท่านเองจะได้รับคำยกย่องชมเชย สรรเสริญชนิดที่คนฟังน้ำตาซึมไปไปตามๆกัน ก็ต่อเมื่อท่านตายในหน้าที่ ใครเล่าที่จะนั่งลงนับพระพรที่ศิษยาภิบาลนำมาสู่ชีวิตของผู้อื่น ใครเล่าจะช่วยให้ศิษยาภิบาลภูมิใจว่าท่านกำลังเดินตามรอยพระบาทของพระเยซูคริสต์ ใครเล่าจะเดินไปเคียงข้างศิษยาภิบาลจนถึงที่สุดปลาย ถ้าไม่ใช่ ภรรยา

 บทความโดย อ.อุบล มีชูธน 01/04/2005