ความรักตัวเองและรักเพื่อนบ้าน ตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าเรามีพระ เจ้าประทับอยู่ในใจเรา

การรักตนเอง
ความรักตัวเองเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่โดยธรรมชาติ ไม่มีใครคนใดที่ไม่รักตัวเอง ซึ่งมันอยู่ในวิญญาณ ของมนุษย์ทุกๆคน
ในภาษากรีกนั้น ได้แบ่งความรักไว้เป็น 4 ความหมาย ซึ่งแตกต่างจากภาษาไทย หาก ไม่มีบริบทหรือส่วนประกอบอื่นของเนื้อหาเข้ามาเกี่ยวข้อง เราพูดหรือเขียนคำว่า “รัก” โดด ๆ ก็จะ เข้าใจกันไปตามความคิดของแต่ละคน คำว่ารักในพระคัมภีร์ต้นฉบับภาษากรีกมี 4 คำคือ
1. ความรักของพระเจ้าที่ไม่มีอารมณ์แนเจือปน เป็นความรักที่บริสุทธ์(อากาเป้)
2. เป็นความรักของหนุ่มสาว
3. ความรักแบบพ่อแม่รักลูก
4. ความรักของประชาชนที่รักประเทศชาติ

แต่คำว่ารักที่เราที่เราจะพูดในบทนี้ เราจะมาดูพระคัมภีร์ประกอบ

1. พระบัญชาของพระเยซูคริสต์เจ้าให้เรารักตัวเองและผู้อื่นมธ.22:37-40
ในตอนนี้พระคัมภีร์ที่ท่านเปิดอ่านมีอยู่ 3 ท่านที่เราต้องรักคือ
1)รักพระเจ้า 2)รักเพื่อนบ้าน 3)รักตัวเอง
ความรักตัวเองและรักเพื่อนบ้าน ตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าเรามีพระเจ้าประทับอยู่ในใจเรา ดังนั้นความรักที่เรามีจึงหมายถึง เรารักพระเจ้า ในตัวเรา และ รักพระเจ้าที่ประทับในใจของเพื่อนบ้าน

2. ความรักของคริสเตียนควรเป็นความรัก AGAPE
คืออยู่บนพื้นฐานแห่งอุดมคติและจริยธรรมตั้งขึ้นก่อนเป็นความใจที่จะรัก ไม่ขึ้นกับอารมณ์ พระเยซูทรงประนามในความรักที่ไม่ถูกต้อง เช่นกันคือหากเรา เอาตัวเองเป็นที่ตั้งจนเกินไป ก็เป็นรากเง่าแห่งความชั่วทุกอย่าง

3. จงรักตัวเอง ความรักมิใช่ทิ้งหน้าที่ต่อตัวเองหมดสิ้น

4. จงรักผู้อื่นเหมือนพระคริสต์รักเรา
ยน.3:16 พระคริสต์ทรงสอนศิษย์ให้รักซึ่งกันและกัน (ผู้อื่น) เหมือนกับที่ รม.13:9 “พระคริสต์ทรงรักท่าน มาร์ติน ลูเธอร์ กล่าวว่า “ต่างคนต่างต้องเป็นพระคริสต์แก่ผู้อื่น เราจึงจะเป็นพระคริสต์แก่กันและกัน และพระคริสต์จะเป็นอย่างเดียว กันแก่ทุกคน จนเราจะเป็นคริสเตียนจริง ๆ
2ทธ.1:7 จงรักผู้อื่น ให้ความเคารพต่อผู้อื่น

5. เราเป็นของพระเจ้า 1คร.6:13
เราเป็นวิหาร จึงต้องเอาใจใส่ดูแลวิหารพระเจ้า ให้มีสุขภาพ จิตใจและร่างกาย ที่แข็งแรง เพื่อเราจะได้ถวายชีวิตร่างกายของเราเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ เพื่อจะรับใช้ถวายสง่าราศีแด่พระองค์(รม.12:1-2)
เหตุนี้เราจึงสรุปว่า
ก) ไม่ควรฆ่าตัวเอง เพราะผิดจริยธรรมคริสเตียนและทำลายพระประสงค์พระเจ้า ไม่แสดงความอดทน
ข) ไม่ควรทำร้ายตนเอง
ค) ควรรักทนุถนอมตัวเองให้ดี
ง) ให้คิดเสมอว่า เรากำลังดูแลวิหารของพระเจ้า (คือชีวิตเรา)

6. เรามีสิทธิ์ป้องกันตัวเอง มธ.24:43
พระคริสต์ทรงสอนให้ระวังว่าเจ้านายจะมาเวลาไหน ให้คน เรือนเผ้าระวังให้ดี จากคำอุปมาสั้น ๆ นี้ จะชี้ให้เราเห็นถึงการเตรียม ตัวป้องกันอันตราย ความรอบคอบในชีวิตได้ เพื่อแสดงให้เห็นการรักตัวเอง ดังนั้น คำสอนให้วางใจพระเจ้าและไม่สนใจตัวเอง จึงเป็นความคิดที่ผิด
เช่น การเตรียมเงินออมทรัพย์ให้ลูกเรียนหนังสือในอนาคต การรักษาสุขภาพที่ดี การระมัดระวังในการขับรถ เดินทางอยู่ปลอดภัย ไม่เพียงเท่านั้นการป้องกันด้านจิตใจ สุขภาพจิตที่ดีขึ้นเมื่อมีการ พักผ่อนที่เพียงพอ อ่านหนังสือหาความรู้ความก้าวหน้า ทานอาหารที่มีประ โยชน์ จึงไม่ใช่สิ่งที่เป็นบาป เพราะการรักตัวเองก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พระเจ้า ทรงสอนเรา แต่ที่สำคัญ ที่ต้องระวังคือ
ก) จดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มากเกินไปจนเสียวิญญาณจิต เหินห่างจากพระเจ้าทางการอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ รับใช้
ข) ด้วยความมานะ ขยัน เพื่อเป้าหมายความสบายเท่านั้น
ค) ทำเพื่อตนเอง ไม่ใช่เพื่อพระเจ้า หรือเพื่อนบ้าน
ง) ปรับปรุงบุคลิกภาพของตนเองอย่างสมบูรณ์ที่สุด อย่างที่พระเจ้าต้องการ

7. จงภูมิใจในตัวเอง
นักชีววิทยาที่มีชื่อเสียงได้กล่าวว่า โอกาสที่ฝาแฝดจะมีทุกอย่าง เหมือนกันได้นั้น มีแค่เศษหนึ่งส่วนอิเลคตรอนทั้งหมดในโลกนี้เท่านั้น คนเรา แต่ละคนจะมีลักษณะพิเศษเฉพาะตน เป็นตัวของตัวเองที่ไม่เหมือนใครและ ไม่มีใครเหมือนเราได้เลย
ก.) จงขอบคุณพระเจ้า หลายคนมีสิ่งที่ดี มีเอกลักษณ์ในชีวิต แต่เขาไม่มี อย่างที่เรามี ความสามารถ บุคลิคพิเศษ หน้าตา ท่าทาง รูปร่าง ความคิด สมอง ไอคิว พระองค์ทรงกำหนดเราไว้อย่างนี้ เพื่อพระ ประสงค์ในงานบางอย่างของพระองค์ เราควรจะภูมิใจในตัวเราเอง
ข.) เราคือเจ้าของตัวเราเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน ดังนี้อย่าให้ความผิดหวัง ในสังคม หรือคนมาทำให้เราต้องขาดความรัก หรือต้องทำร้ายตนเองขึ้นมา

8. การเริ่มต้นรักตนเองและเชื่อถือตนเอง
ก.) ให้เรานับถือตนเอง ไม่ใช่เหยียดหยามดูถูกตัวเอง อย่าหลบซ่อนอยู่ในเงาของตนเอง อย่าวิตกกังวลในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จนทำให้ศักยภาพของตนเองถูกลดขนาดลงจากการไม่มีกำลังใจ การหลบซ่อนตัวเอง
ข.) พระเจ้าทรงประทานพลังอันสูงส่ง เทฤทธิ์อำนาจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมาให้เรา เพื่อเป็นประกายไฟแห่งความหวัง พลังในการดำเนินชีวิต เราไม่ควรห่างจากพระองค์ แต่ต้องติดสนิทกับพระเจ้าผู้เป็นเจ้าชีวิตของเรา
ค.) แบบแผนในการดำเนินชีวิตของเรา ก็ควรมีแบบแผนที่เป็นตัวของตัวเอง โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้และดีที่สุด โดยรู้ว่าสิ่งที่ตนเองเข้มแข็ง สิ่งไหนที่ตนอ่อนแอก็ปรับปรุงแก้ไข
เราควรรู้จักกำลังและศักยภาพของตนเอง รู้จักมรดกทางจิตใจจุดมุ่งหมาย และเป้าหมายของตน
ง.) จงอ่อนโยนต่อตนเองเรียนรู้ที่จะยกโทษ ให้อภัยกับตนเอง มีทัศนที่ถูกต้องต่อตนเอง หากเรามีทัศนที่ถูกต้องกับตนเองเราก็มีทัศนที่ถูกต้องกับผู้อื่น เราควรที่จะอธิษฐานว่า “โอ…พระบิดาเจ้า ขอทรงโปรดช่วยให้ข้าพระองค์เปลี่ยนแปลงโลกนี้ โดยที่ข้าพระองค์เปลี่ยนแปลงตัวข้าพระองค์ ก่อน”
จ.) สัตย์ซื่อต่อตนเอง เช็คสเปียร์ กล่าวว่า “หากท่านซื่อตรงและมีสัจจะกับตนเองแล้ว ท่านจะไม่มีวันหลงทาง ชีวิตของท่านจะดำเนินไปได้ดุจการต่อเนื่องกันอย่างกลมกลืนของวันคืน และท่านก็จะเป็นประโยชน์กับทุกคนด้วย” เราควรจะสัตย์ซื่อในการพัฒนา และดูแลตนเองให้มาก สม่ำเสมอ อย่าทำให้ตนเองผิดหวังเพราะตนเอง
ฉ.) เสียงหัวเราะกับความผิดพลาด อย่าให้ขาดหายไปในชีวิต เสียงหัวเราะลดความตึงเครียดและลดความกดดัน ผ่อนคลายสมอง อย่าโศกเศร้าจนลืมการหัวเราะ อย่าคิดถึงความผิดพลาดจนลืมการควบคุมสิ่งที่จะเกิดขึ้น

บุคคลที่ประสพความสำเร็จในอดีตมักเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และพบกับความผิดพลาดมานับหลายครั้ง และจากความผิดพลาดนี้เอง ทำให้หลายคนเป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ เราต้องคำนึงถึงเสมอว่า เราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่จะเกิดขึ้นมาได้ แต่สามารถควบคุมการตอบสนองของเรื่องที่ผิดพลาดในการเกิดขึ้นมาได้

บทความจากฝ่าย คณะศิษยาภิบาล