ถ้าแยกจาก พระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตจักรจะไม่เป็นกายของพระคริสต์ที่มีชีวิตอยู่ พระเจ้าลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์โดยฤทธิ์เดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ (INCANNATION) ในทำนองเดียวกัน (แต่อาจจะไม่ใช่ในขนาดเดียวกัน)พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ได้ลงมาอยู่ในคริสตจักร เพื่อผลักดันและสนับสนุนคริสตจักรในการทำพันธกิจแห่งการรับใช้เรื่องข่าวประเสริฐให้สำเร็จ โลกนี้จะสัมผัสฤทธิ์เดชของพระเจ้าโดยผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำงานในคริสตจักรของพระเยซูคริสต์เมื่อพระวิญาณบริสุทธิ์ทำกิจมาก โลกก็จะตระหนักในฤทธิ์เดชของพระเจ้ามาก

วันเพ็นเทคศเตเป็นวันเริ่มต้นของราชกิจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในคริสตจักรโดยผ่านกลุ่มผู้เชื่อกลุ่มแรกและตั้งแต่นั้นมา พระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็เป็นผู้นำของ คจ.ที่แท้จริงโดยใช้มนุษย์เป็นเครื่องมือของพระองค์
กิจการต่างๆที่เกิดขึ้นในคริสตจักร.เยรูซาเล็มและคจ.อื่นๆในหนังสือกิจการเป็นงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่ทำผ่านคริสตจักร

– การกลับใจของคนเป็นจำนวนมาก 3,000 ; 5,000 ทุกวัน
– การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
– ผู้นำที่มีประสิทธิภาพ
– การอัศจรรย์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
– ทำลายกำแพงขวางกั้นข่าวประเสริฐระหว่างยิวชนชาติ(กจ.15:28) ของพระวิญญาณบริสุทธิ์
– การเจริญแผ่ขยายของคริสตจักรตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาถุึงปัจจุบันนี้ เป็นงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ อ.เปาโลกล่าวว่าธรรมิกชนผู้เชื่อทั้งหลายถูกนำมารวมกัน ก่อสร้างกันขึ้นเป็นวิหาร ของพระเจ้าโดยพระวิญญาณ (อฟ.2:21,22)

ดังนั้นราชกิจแห่งการเพิ่มพูนคริสตจักรเป็นราชกิจของ พระวิญญาณบริสุทธิ์ (1 คร.3:7)
ผู้นำที่แท้จริงของคริสตจักรคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้นำที่เป็นมนุษย์ที่ถูกเจิมขึ้นนั้นเป็นเครื่องมือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่จะเชื่อฟังที่เป็นและทำตามการทรงนำของ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ความสามารถของมนุษย์ไม่ใช่ตัวกำหนดที่สำคัญของความเจริญก้าวหน้าของคริสตจักรแต่การยอมจำนนและการเชื่อวางใจ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ของผู้นำเป็นตัวกำหนดที่สำคัญ คริสตจักร ที่ยึดความสามารถของมนุษย์ ปฏิเสธ การทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะพบความล้มเหลว แต่คริสตจักรที่พึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำจะพบความสำเร็จและการเกิดผล

การสถิตอยู่การนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในคริสตจักรที่ให้คริสตจักรเป็นร่างกายที่มีชีวิตไม่ใช่เป็นองค์การหรือสมาคม พระวิญญาณบริสุทธิ์จะรวบรวมและทำให้ชุมชนของผู้เชื่อ (คริสตจักร)มีชีวิตฝ่ายวิญญาณ การรับใช้ปรนบัติด้วยความรักการนมัสการพระเจ้าโดยมีพระคริสต์เป็นศีรษะ

พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้นำให้คริสตจักรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแม้จะมีความแตกต่างในบุคคลิก การรับใช้ ความรู้ความสามารถแต่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันฝ่ายวิญญาณ ( 1 คร.12:13) คริสตจักร ควรเน้นการยอมจำนนต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ มีอิสระในการทำงานมากขึ้นแล้ว ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวจะเป็นผลตามมา มีวิญญาณเดียวกัน

พระวิญญาณบริสุทธิให้สิทธิอำนาจแก่การเทศนาและการสั่งสอนพระคำในคริสตจักร และสิทธิอำนาจแห่งข่าวประเสริฐในการประกาศแก่คนภายนอกพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทำให้พระคำมีชีวิต มีความหมาย มีอิทธิพลต่อผู้อื่นและผู้ฟัง

ถ้าปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์พระคำพระเจ้าคือพระบัญญัติที่ฆ่า แต่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์พระองค์ได้ใช้พระคำเป็นเครื่องมือในการสร้างการดัดแปลงแก้ไขคนให้ดีขึ้นและนำสู่ความไพบูลย์ของ พระคริสต์ ( 2 คร.3:2- 18

ในศาสดาพยากรณ์ และอัครสาวก
พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงเปิดเผยสำแดงความจริงที่ปิดบังไว้ให้แก่พวกอัครสาวกและพวกศาสดาพยากรณ์ อฟ.3:5 … อ่าน … ในที่นี่พูดถึงความจริงเรื่องข่าวประเสริฐไปถึงคนต่างชาติและ คนต่างชาติมีสิทธิ์แห่งพระสัญญาของอับราฮัมเท่าเทียมกับยิวทุกประการเรื่องนี้อัครทูตได้รับการสำแดงจากพระเจ้าโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์
คำสอนคำพูดของพวกศาสดาพยากรณ์ซึ่งเป็นคำพยากรณ์เป็นมาโดย พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้ดลใจให้พูด 2 ปต.1:21
พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ให้ถ้อยคำแก่อัครสาวกในการสอนในการอธิบาย 1คร.2:13 ดังนั้นพระคัมภีร์จึงบันทึกไม่ผิดพลาดถ้อยคำต่างๆ นั้นมาจาก พระวิญญาณบริสุทธิ์ ผ่านทางอัครทูตและศาสดาพยากรณ์
1 ธส.2:13 ถ้อยคำของพวกอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์เป็นพระวจนะของพระเจ้า ไม่ใช่ถ้อยคำของมนุษย์

บทความโดย ศจ. มนูญศักดิ์ กมลมาตยากุล