สาส์นศบ.(9ธค.)
“คนที่ปลีกตัวไปจากผู่อื่นจงใจกระทำตามใจตนเอง และค้านคติแห่งสติปัญญาทั้งหลาย”(สภษ.18:1)

สถิติล่าสุดการฆ่าตัวตายของคนไทยสูงจนน่าตกใจคือ คนไทยลงมือฆ่าตัวตายเฉลี่ยชั่วโมงละ6คน แต่ฆ่าตัวตายสำเร็จ2คนใน6คน เท่ากับ 1ใน 3 คนที่ลงมือฆ่าตัวตายจะทำขณะอยู่ตามลำพัง สังคมทุกวันนี้มีคนหนาแน่นมากขึ้นกว่าในสมัยก่อน แต่คนในสังคมมีความว้าเหว่มากกว่าแต่ก่อน เพราะสังคมก้มหน้าคือเล่นมือถือทำให้แต่ละคนมีโลกส่วนตัวมากขึ้น การปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างลดลงมาก แต่ละคนสร้างโลกส่วนตัวตามใจชอบโดยติดตามดูโปรแกรมหรือเรื่องที่ตัวเองชอบในอินเตอร์เน็ต นานเข้าก็รู้สึกคุ้นเคยกับการอยู่ในโลกส่วนตัว เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในชีวิตที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรงก็ไม่มีทางออก ไม่รู้จะปรึกษาใคร ไม่มีทางจะระบายความทุกข์ให้ใครฟัง เกิดความหดหู่ใจนำไปสู่โรคซึมเศร้า เมื่อเป็นมากๆก็นำไปสู่การฆ่าตัวตาย

พระคำพระเจ้าจึงคัดค้านการที่มนุษย์จะปลีกตัวไปอยู่คนเดียวโดยไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ การใช้ชีวิตที่ฉลาดต้องสร้างมิตรภาพ ต้องมีเพื่อนสนิทที่มีความรักและความจริงใจให้แก่กันและกัน “สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับผลของงานดี ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พะยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลงและไม่มีผู้อื่นพะยุงเขาให้ลุกขึ้น”(ปญจ.4:9-10) จงเงยหน้าจากมือถือของท่านและมองคนที่อยู่รอบข้างบ้าง จงพูดคุยและสำแดงความรักของพระเจ้าแก่เขา บางทีการทำเช่นนั้นท่านอาจจะมีโอกาสช่วยบางคนให้พ้นจากการคิดฆ่าตัวตายและได้รับความรัก รับความหวังของชีวิตในพระเยซูคริสต์