“จงระวังให้ดี อย่าให้ผู้ใดทำให้ท่านตกเป็นเหยื่อด้วยหลักปรัชญาและด้วยคำล่อลวงอันเหลวไหล ตามตำนานของมนุษย์ ตามภูตผีปีศาจของจักรวาล ไม่ใช่ตามพระคริสต์”(คส.2:8)

การตกเป็นเหยื่อหมายความว่าคล้อยตาม เห็นดีเห็นชอบกับหลักปรัชญาของโลกนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลจอมปลอมที่คิดขึ้นมาตามอุบายฉลาดของมนุษย์ ขัดแย้งกับความจริงในพระวจนะของพระเจ้า ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะเลิกทำตามพระคำพระเจ้า หันไปทำตามหลักปรัชญาและเหตุผลจอมปลอมของมนุษย์ สุดท้ายก็ติดกับดักของความบาปและตกเป็นทาสบาป

เอวาในสวนเอเดนก็ตกเป็นเหยื่อคำล่อลวงด้วยเหตุผลจอมปลอมที่มารคิดขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่าคำสั่งห้ามของพระเจ้าในการกินผลไม้ไม่ดี สู้เหตุผลของมารไม่ได้ เมื่อเอวาเห็นคล้อยตามเหตุผลของมาร นางจึงตัดสินใจกินผลไม้ต้องห้ามนั้น ความบาปจึงเข้ามาในชีวิตของมนุษย์ ตั้งแต่นั้นมามนุษย์ก็ตกเป็นทาสของความบาป

ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงประทานพระเยซูมาปลดปล่อยทุกคนที่เชื่อในพระองค์ให้เป็นไทจากบาป แต่การจะคงอยู่ในอิสรภาพก็ต้องดำเนินชีวิตตามความจริงแห่งพระคำของพระเจ้าเสมอ หากละทิ้งแล้วไปเชื่อเหตุผลจอมปลอมของมารและของมนุษย์ ผู้เชื่อก็จะกลับไปสู่ความพ่ายแพ้ต่อบาปและตกเป็นทาสของบาปอีก พระคัมภีร์จึงเตือนผู้เชื่อให้ระวังอย่าให้ใครมาล่อลวงให้ตกเป็นเหยื่อของเหตุผลจอมปลอมอีก วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ”จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในท่านอย่างบริบูรณ์—-“(คส.3:16)