01/11/2015

“เพราะว่าคนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนังก็ปักใจในสิ่งซึ่งของของเนื้อหนัง แต่คนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายพระวิญญาณก็สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ” (รม.8:5) สิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณคือพระคัมภีร์ทุกตอนซึ่งได้รับการดลใจจากพระเจ้า (2ทธ.3:16) ดังนั้นการอ่านและใคร่ครวญพระคำของพระเจ้าเป็นการสนใจในสิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ จะมีผลให้ชีวิตฝ่ายวิญญาณเติบโตเข้มแข็งและเกิดผลแห่งความชอบธรรม อีกประการหนึ่งการอธิษฐานในพระวิญญาณ (พูดภาษาแปลกๆ) ก็เป็นการปักใจในสิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ เพราะเป็นการสื่อสารด้วยภาษาฝ่ายวิญญาณ “เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่พูดภาษาแปลกๆได้ ไม่ได้พูดกับมนุษย์ แต่ทูลต่อพระเจ้า เพราะว่าไม่มีมนุษย์คนใดเข้าใจได้ แต่เขาพูดเป็นความล้ำลึกฝ่ายวิญญาณ ” (1คร.14:2) ดังนั้นผู้ที่พูดภาษาแปลกๆได้จึงควรใช้ภาษาแปลกๆให้มากในการอธิษฐานต่อพระเจ้า อ.เปาโลก็พูดภาษาแปลกๆ มากในการอธิษฐาน(1คร.14:18) ในการดำเนินชีวิตแต่ละวันของผู้เชื่อพระเจ้า ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ชักนำให้สนใจในสิ่งที่เกี่ยวกับพระวิญญาณ ดังนั้นถ้าหากไม่จัดเวลาในการอ่านพระคัมภีร์อย่างใคร่ครวญและการอธิษฐานด้วยใจ(ภาษาแปลกๆ)และอธิษฐานด้วยความคิด(ภาษาที่เราพูด) เราจะถูกดึงออกห่างจากสิ่งที่เป็นของพระวิญญาณไปเรื่อยๆ แล้วจิตวิญญาณของเราจะเริ่มเหี่ยวแห้ง ขาดพลังในการดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้าถ้าท่านอยากให้จิตวิญญาณมีพลัง จงสนใจในสิ่งที่เป็นของพระวิญญาณทุกวัน ขอหนุนใจให้เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป